วันเสาร์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2567

ประวัติ honda

 


โซอิจิโร่ ฮอนด้า เขาเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทฮอนด้า และเป็นหนึ่งใน นักธุรกิจที่ทรงอิทธิพล มากที่สุดของญี่ปุ่น ชายผู้นี้อยู่เบื้องหลัง Honda Motor Company ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ที่ใหญ่ ที่สุดในโลก 

-------

ชายคนนี้

เขาคือ ราชาแห่งมอเตอร์ไซค์ เบอร์ 1 ของโลก

เขาคือ ตัวอย่างที่ดีสุด ของผู้เริ่มต้นจากความยากไร้ สู่แบรนด์ระดับของโลก

เขาคือ เด็กยากจนคนหนึ่ง จากต่างจังหวัด สู่ธุรกิจมูลค่าทรัพย์สิน 1 ล้านล้านบาท

เขาคือ ผู้วางรากฐาน สำหรับผู้ผลิตรถยนต์ที่โดดเด่นที่สุดแห่งยุค

เขาคือ ผู้ผลิตรถ ที่คว้าชัยชนะในสนามแข่ง ทั้งยานยนต์สองล้อและสี่ล้อ 

เขาคือ ชายคนเอเชีย ถูกจารึกในทำเนียบปูชนียบุคคลยานยนต์โลก

เขาคือ ชายคนที่เป็นสุดยอด แห่งการยืนหยัดต่อสู้ จากขี้เมาข้างถนนสู่มหาเศรษฐี

เขาคือ ชายคนที่เป็น สุดยอดนักประดิษฐ์จากเศษซากแห่งสงคราม

เขาคือ เด็กเรียนไม่เก่ง แต่ปรับเปลี่ยน mindset เข้าสู่โหมดการเรียนรู้เฉพาะทาง และพลิกวิกฤตเป็นโอกาสได้

เขาคือ ผู้บุกเบิกเทคโนโลยีเครื่องยนต์ที่มีประสิทธิภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

เขาคือ ผู้นำการผลิตรถจักรยานยนต์ขนาดเล็กรุ่นแรกๆ ที่โด่งดังระดับโลก ในนามฮอนด้า ดรีม

เขาคือ ผู้สร้างยอดขายรถยนต์ถล่มทลายในอเมริกา ในนาม Honda Civic

เขาคือ ผู้พัฒนารถยนต์ไฟฟ้าและไฮบริด รุ่น Insight และ Clarity

เขาคือ ผู้ที่สร้างสรรค์นวัตกรรมต่างๆ มากมายตั้งแต่ จักรยาน  หุ่นยนต์ จนถึงระดับเครื่องบินเลยทีเดียว

-

คนคนนี้ ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ กว่าจะมีชื่อติดระดับโลกแบบนี้ เขาผ่านอะไรมาบ้าง สาหัสขนาดไหน มารับชมกันครับ

-

ครอบครัว ฮอนด้า

คุณ โซอิจิโร ฮอนด้า  เกิดเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 1906 ที่บ้านคอมโยะ ในอิวาตะ  จังหวัด ชิซูโอกะ ประเทศญี่ปุ่น บ้านของเขาตั้งอยู่ที่เชิงเขา ภูเขาไฟฟูจิ ดินแดนที่เต็มไปด้วยแผ่นดินไหว  ตัวเขาเองมีความหลงไหล ในเครื่องจักร และการทำงานของเครื่องยนต์ตั้งแต่วัยเยาว์  คุณพ่อของเขา คือคุณ เกไฮ และคุณแม่คือคุณมิกะ  (ขออภัยหากอ่านออกเสียงผิดนะคับ) คุณพ่อท่านเป็นชาวนาที่ชอบงานช่าง แต่ช่วงว่างก็รับซ่อมจักรยาน ตีเหล็กและงานอื่นๆ คุณพ่อเขามีทักษะด้านงานช่างฝีมือ และงานซ่อมที่ยอดเยี่ยมมากๆ  ส่วนด้านคุณแม่ ก็ทำงานเย็บปักถักร้อยและเป็นแม่บ้าน ความเป็นอยู่ในย่านนั้น เรียกว่า ยากจนแร้นแค้นเลยก็ว่าได้

-

ในวัยเด็ก

-

เขาเป็นคนไม่ชอบไปเรียนหนังสือ ไม่ชอบการอ่าน ไม่ชอบการเขียนเลย เขาหลงไหลในเครื่องยนต์และจักรกลมากกว่า ทำให้ในวัยเด็กของเขา   เขาใช้เวลาส่วนใหญ่ช่วยงานพ่อเขา มากกว่าจะอยากไปโรงเรียน

.

เมื่อเขาไม่อยากไปโรงเรียน  ทำให้ผลการเรียนของเขาตกต่ำมาก เมื่อคุณครูส่งจดหมายมาที่บ้าน เพื่อแจ้งเรื่องผลการเรียน เขาไม่อยากให้พ่อได้รับทราบเรื่องนี้ ไม่อยากให้พ่อต้องลงลายมือ ในเอกสารรับทราบ เขาจึงประดิษฐ์ ตราประทับปลอม ประทับตราลงไปแทนลายมือพ่อของเขา ซึ่งต่อมาพ่อเขาจับได้ และลงโทษเขา โดยการให้นั่งคุกเข่า และไม่ให้รับประทานอาหารกลางวัน

.

วันหนึ่ง โซอิชิโร กำลังเล่นอยู่ ทันใดนั้น เขา ได้ยินเสียงกึกก้องของอะไรบางอย่าง ซึ่งมันสามารถเคลื่อนที่ได้ เขาแปลกประหลาดใจ แล้วรีบวิ่งไปดู นี่คือครั้งแรกที่เขาได้พบเห็น เครื่องจักรประหลาดชนิดหนึ่งมีล้อ 4 ล้อที่ มันสามารถขับเคลื่อนได้  คนสามารถนั่งบนมันได้ สิ่งนี้คือ รถยนต์ 4 ล้อ ของ ยี่ห้อ ฟอร์ด รุ่น t  รถยนต์ของฟอร์ด คันนี้ ทำให้เขาต้องตกตะลึง มันเป็นเครื่องจักรที่แสนพิเศษ มันช่างตราตรึงใจ สำหรับเด็กคนนี้มาก เขาเกิดความสงสัยว่า มันขับเคลื่อนได้ยังไง และแล้วเขาก็วิ่งตามมัน เพื่อให้ได้ใกล้ชิดมันมากที่สุด

.

 เมื่อครั้ง เขาเรียนอยู่ชั้นประถมปีที่ 2 เด็กชายโซอิชิโร  ได้มีโอกาสเห็นเครื่องบิน ในเดือนถัดมาหนูน้อยโซอิชิโร  พยายามแต่งตัวให้เหมือนนักบินมากที่สุด

.

ในปี 1922 เขาอ่านหนังสือพิมพ์และเห็นข่าวที่น่าสนใจ ในเนื้อข่าวระบุว่า บริษัทที่ให้บริการรถยนต์ในโตเกียว ชื่อว่า อาท โชไก  ต้องการรับสมัครคนเพื่อมาร่วมทำงาน เขาตัดสินใจส่งจดหมายขอเข้าร่วมงานและ เขาก็ได้งาน

-


ช่วงชีวิตวัยหนุ่ม 


ในวัย 15 ปี เขาจากบ้านที่แสนยากจน มุ่งหน้าสู่เมืองโตเกียว ที่แสนเจริญ ด้วยความคาดหวังว่าจะหางานเพื่อทำให้ชีวิตตนเองดีขึ้น ในร้านซ่อมมอเตอร์ไซค์เล็กๆ แต่งานที่เขาได้รับกลับเป็นงานเลี้ยงลูกของเจ้าของร้าน และงานเก็บกวาดขยะที่ร้าน เขารู้สึกหมดหวังและทำงานเก็บเงินไม่ได้เลย ในใจเขาก็อยากกลับบ้าน แต่ก็ทนทำต่อไป

ต่อมาเขาเริ่มได้รับความไว้วางใจ และขยับเข้ามาสู่ระบบงานซ่อมบำรุงเครื่องยนต์

การทำงานที่นี่ มีงานซ่อมที่หลากหลาย เริ่มตั้งแต่รถจักรยานจนถึงรถยนต์หรูหราราคาแพง ของชนชั้นสูงทำให้เขาได้เรียนรู้มากมาย

.

ก้าวเข้าสู่โลกของมอเตอร์สปอร์ต

.

ในปี 1923 ในช่วงนี้วงการแข่งขันรถยนต์ระดับโลกกำลังเริ่มเฟื่องฟู หนุ่มน้อย โชอิชิโร กำลังแตกเนื้อหนุ่มความเร็วความแรงก็ย่อมเป็นที่น่าสนใจเป็นเรื่องปกติ เจ้าของร้าน อาทโชไก ที่เขาทำงานด้วย ก็สนใจมอเตอร์สปอร์ตเหมือนกัน เขาคิดจะสร้างรถขึ้นมาเองเพื่อการแข่งขันครั้งนี้ด้วย

.

รถแข่งรุ่นแรก ที่พวกเขาทำมันขึ้นมามันคือ อาท เดมเลอร์  มันถูกสร้างมาจากเครื่องยนต์มือสอง แล้วต่อมาก็สร้างรุ่นที่ 2 ชื่อ เดอะ เคอตอส  ในรุ่นที่ 2 นี้เครื่องยนต์ของมันมาจากเครื่องยนต์ของเครื่องบิน 2 ปีกในสมัยนั้น ส่วนแชสซี ของรถ นำมาจากรถของคนอเมริกันยี่ห้อ มิชเชล พวกเขาตัดสินใจประกอบรวมร่างมันขึ้นมา

-

ในปี 1924 ก็ลงแข่งขันในรายการ motor car ของญี่ปุ่นครั้งที่ 5

ผู้ขับขี่ในครั้งนี้คือพี่ชายของเจ้าของร้านอาทโชไก และ โซอิจิโร่ เป็นวิศวกรให้

ในวัย 17 ปี กับการเปิดโลกมอเตอร์สปอร์ต ความเร็วและเครื่องยนต์กลไกมันซึมเข้าสู่กระแสเลือดของเขา  ทำให้เขาประทับใจมาก

.   

ในปี 1926 เขาถูกเรียกตัวไปเกณฑ์ทหารแต่ไม่ผ่านเพราะเขาตาบอดสี

ในปี 1928 ร้าน อาทโชไก  ต้องการขยายสาขาที่เมือง ฮามามัตสึ และคนที่เหมาะสม สำหรับตำแหน่งนี้มากที่สุดก็คือ โซอิจิโร่ คนนี้นี่เอง ในขณะนั้นเขามีอายุเพียง 21 ปี ปัญหาที่เขาเจอคือ คนส่วนใหญ่ไม่กล้าให้เขาทำการซ่อมแซม เพราะ เขาหน้าตายังเด็ก และอายุยังน้อย ดูไม่น่าเชื่อถือเลย แต่เขาทนทำจนเป็นที่ยอมรับในเวลาต่อมา

.

ในปี 1930 กิจการของเขาเริ่มไปได้ด้วยดี เขาทำร้านใหม่และมีลูกจ้างมากถึง 30 คน ในขณะนั้น เขาเป็นทั้งนักซ่อมรถยนต์และเป็นนักแข่งรถด้วย

.

เขาได้สร้างรถยนต์สำหรับการแข่งขันที่ฮามามัตสึ เจ้ารถยนต์ตัวนี้ มันทุบสถิติ โดยการทำความเร็วสูงสุดถึง 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งสถิติความเร็วนี้อยู่ได้นานมาจนถึง 20 ปี  ทุกคนต่างยอมรับในความเก่งกาจ ทั้งเรื่องการซ่อมรถ และการแข่งรถของเขา ในเดือนมิถุนายน เขาก็ประสบอุบัติเหตุในการแข่งขันอย่างรุนแรง

.

ในปี 1931  เขาสร้างความฮือฮา ให้วงการยานยนต์ โดยการเปลี่ยนจากล้อไม้ เป็นซี่ล้อโลหะครั้งแรก และมีการจดสิทธิบัตรเอาไว้


ในปี 1936  โซอิจิโร เขาประสบอุบัติเหตุในระหว่างการแข่งขันรถยนต์ ที่ทามากาวะ รุนแรงเกือบถึงชีวิต ภรรยาเขา ขอร้องให้เขาหยุด เขาจึงจำเป็นต้องหยุด เขาเริ่มศึกษาการผลิตแหวนลูกสูบ โดยปรึกษาคุณ ชิจิดร คาโตะ และก่อตั้ง บริษัท โตไก ไซกิ ขึ้นมา

-

ช่วง การพัฒนาธุรกิจ:

-

ในปี 1937 เขา เริ่มธุรกิจผลิตแหวนลูกสูบ

โตไก ไซกิ ตั้ังขึ้นมาเพื่อผลิตและส่งวงแหวนลูกสูบให้กับบริษัทโตโยต้า แต่กลับได้รับข่าวร้ายเพราะแหวนลูกสูบที่ส่งไปทดสอบมีแค่ 3 วงเท่านั้นที่ผ่านการทดสอบคุณภาพ จากที่ส่งไปทั้งหมด 30,000 วง นับเป็นความล้มเหลวครั้งครั้งใหญ่ของเขา  เหตุการณ์ครั้งนี้ ทำให้โซอิจิโร ต้องหันมาเรียนภาคค่ำ เพื่อเรียนรู้ตำราและทฤษฎีโลหะวิทยา เพื่อให้เข้าถึงการผลิตที่มีคุณภาพ เพราะก่อนหน้านี้เขาคิดว่า เรื่องเหล่านี้ไม่สำคัญเท่ากับลงมือปฏิบัติจริง และหลังจากนั้น เขาใช้ความรู้ที่มีมาผลิตแหวนลูกสูบ จนโตโยต้ายอมรับในที่สุด

-

ในปี 1941 ญี่ปุ่นเข้าสู่ภาวะสงคราม เศรษฐกิจถดถอย แรงงานถูกเกณฑ์เข้าสู่สงครามจำนวนมาก 

-


ช่วงการก่อตั้งฮอนด้า


ในปี 1945  เหตุการณ์ที่แสนสาหัสก็เกิดขึ้น เมื่อ 13 มกราคม 1945 เกิดแผ่นดินไหวครั้งรุนแรง ทำให้โรงานของเขาถล่ม เกิดความเสียหาย รุนแรง  ต่อมา โรงงานของ โซอิจิโรซัง ก็โดนระเบิดจากสงครามอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ เขาไม่สร้างมันขึ้นมาใหม่ เพราะตัวเขามองว่า ประเทศญี่ปุ่นกำลังย่ำแย่และขายธุรกิจให้กับโตโยต้า ไปด้วยมูลค่า 450,000 เยน ซึ่งหลังจากขายกิจการ เขารู้สึกท้อแท้ผิดหวัง จนกลายเป็นขี้เมาข้างถนนนานเกือบปี

-

ปี 1946  เมื่อภาวะสงคราม จบลง ญี่ปุ่นต้องเผชิญกับปัญหาขาดแคลนน้ำมันอย่างหนัก ผู้คนส่วนใหญ่ต้องสัญจรกันด้วยการเดิน ไม่ก็ปั่นจักรยาน โซอิจิโร จึงลองคิดค้นเครื่องยนต์ขนาดเล็กมาติดกับจักรยาน เพื่อให้ภรรยาของเขาใช้เดินทาง

-

ปี1947 ปีที่เป็นต้นตอของ ฮอนด้า ดรีมที่โด่งดัง   เมื่อคนอื่นพบจักรยานติดเครื่องยนต์ ก็เกิดความสนใจ และต้องการสั่งซื้อมัน เขาพัฒนาเครื่องยนต์ชุดแรก ชื่อ A-TYPE ในปี 1947  และต่อมาเขาสร้างรถมอเตอไซต์ในชื่อ Honda Dream (D-type) ซึ่งเป็นจักรยานยนต์รุ่นฮิต ที่สร้างชื่อให้กับเขา  รถรุ่นนี้ ทำให้Honda กลายเป็นบริษัทจักรยานยนต์ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และหลังจากประสบความสำเร็จอย่างมหาศาลในอุตสาหกรรมจักรยานยนต์ 

.

ปี 1948 เขาได้ให้กำเนิดบริษัท Honda Motors ซึ่งเป็นบริษัทจักรยานยนต์ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ทั้งนี้ คุณโซอิจิโร เขาได้ก่อตั้ง สถาบัน Honda Technical Research Institute ด้วย

-

ปี 1961 ฮอนด้า คว้าชัยชนะ 5 อันดับแรกในการแข่งขันรถมอเตอไซต์ รายการ Isle of Man TT or Tourist Trophy ทั่งรุ่น 125 และ 250 ซีซี

-

ปี 1970  คุณโซอิจิโร จึงเดินหน้าเข้าสู่อุตสาหกรรมยานรถยนต์ระดับโลก

ปี 1980  คุณโซอิจิโร เขาได้พา Honda สู่ความยิ่งใหญ่ เป็น Top3 ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของญี่ปุ่น และของโลก

.

นอกจากนี้ อุตสาหกรรมยานยนต์ Honda ยังมีหลายธุรกิจที่หลายคนอาจไม่รู้ อาทิ Honda Aircraft Company บริษัทผลิตเครื่องบินที่ได้ศึกษาและพัฒนาเครื่องบิน jet aircraft มาตั้งแต่ปี 1980 และในปี 2003 “HA420 Hondajet” ได้ถูกนำมาใช้ในธุรกิจการบินอย่างเป็นทางการ นอกจากนี้ ยังมี อุตสาหกรรมหุ่นยนต์ ทาง Honda ก็ได้มีการพัฒนาเป็นของตัวเองมาตั้งแต่ปี 1986 โดย Asimo เป็นหุ่นยนต์ของ Honda ที่เรารู้จักกันดี

-

ช่วงเกษียณอายุ:

 คุณโซอิจิโร ลาออกจากตำแหน่งประธานบริษัทในปี 1973 แต่เขา ยังคงเป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัทหลังเกษียณ

-

วาระสุดท้ายของชีวิต

   - เสียชีวิตเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม  1991 ด้วยวัย 84 ปี ต่อมาเขาก็ได้รับการจารึกชื่อในทำเนียบ ปูชนียบุคคลยานยนต์โลก นับเป็นความสุดยอด เพราเขาชาวเอเซียคนแรกที่ได้รับเกียรตินี้

--

คุณ โซอิจิโร่ ฮอนด้าเป็น ที่รู้จักในฐานะนักประดิษฐ์และผู้ประกอบการที่มีวิสัยทัศน์ เขาสร้างบริษัทที่มีชื่อเสียงระดับโลกจากจุดเริ่มต้นที่ต่ำต้อย และมีอิทธิพลอย่างมากต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ของญี่ปุ่นและทั่วโลก

ขอคำคมและแนวคิด สั้นๆ หน่อยครับ

“ ชีวิตไม่คุ้มค่าที่จะอยู่หรอก ถ้าหากว่า ไม่ทำสิ่งที่ตัวเองชอบที่สุด" 


-------

ขอขอบคุณ

website 9carthai.com

website blueoclock.com

website  global.honda

Facebook เพจ เปลี่ยนชีวิต กับ ไผ่ ไซโค

Facebook เพจ The People

Youtube ช่อง BARCHETTA


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น