วันพฤหัสบดีที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2567

เทสล่า อัจฉริยะสติเฟื่องที่โลกลืม 100 ปี


เทสล่า อัจฉริยะสติเฟื่องที่โลกลืม 100 ปี


 ตั้งแต่เราตื่นขึ้นมา จนเข้านอนอีกครั้ง รู้หรือไม่ ว่าสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ รอบตัวเรา เช่น รีโมท พัดลม ตู้เย็น เครื่องปรับอากาศ  ทีวี มือถือ วิทยุ  รวมไปถึงเครื่องมือทางการแพทย์ ทางการทหาร ล้วนเกี่ยวข้องกับชายคนนี้ เขาเป็นผู้บุกเบิก เขาประดิษฐ์คิดค้นมากมาย บอกเลยว่า เขาก็คือ ที่สุดในโลกคนหนึ่ง

 .

 

 ชายคนนี้  เขาเกิดมาในค่ำคืนที่เต็มไปด้วยสายฟ้าฟาด

 ชายคนนี้  เขาคิดเลขที่ซับซ้อนโดยที่ไม่จำเป็นต้องทดเลขใดๆ เลย ทุกอย่างผุดขึ้นในหัวเขาเองทั้งหมด

 ชายคนนี้  ออกแบบคิดแบบอุปกรณ์ไฟฟ้า เสร็จสรรพ ออกมาเป็นภาพทุกรายละเอียด ทุกอย่างผุดขึ้นในหัวเขาเองทั้งหมด

 ชายคนนี้   เขาจะหายป่วย ก็ต่อเมื่อได้อ่านหนังสือ

 ชายคนนี้   เขาไม่ชอบให้ใครสัมผัสตัว

 ชายคนนี้  แค่รู้ว่าจะได้เรียนวิศวะ ก็หายป่วยได้

 ชายคนนี้  เขาคือผู้ค้นพบไฟฟ้ากระแสสลับและใช้มันจนถึงปัจจุบัน

 ชายคนนี้  เขาคือ จุดเริ่มต้นของการสื่อสารแบบไร้สาย

 ชายคนนี้  เขาคือคู่ปรับของ โธมัส อัลวา เอดิสัน

 ชายคนนี้  เขาคือ บิดาแห่งวิศวกรรมไฟฟ้า

 ชายคนนี้  เขาคือคนคิดวิธีส่งสัญญาณไปดาวอังคาร คนแรกๆ ของโลก

 ชายคนนี้  คนที่ประดิษฐ์ ขีปนาวุธ ในชื่อ เดด เรย์ หรือ รังสีหายนะ

 ชายคนนี้  คนที่ประดิษฐ์มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ ซึ่งเป็นหนึ่งในสิ่งประดิษฐ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก

 ชายคนนี้  มุ่งมั่นคิดค้นสิ่งประดิษฐ์เพื่อมนุษยชาติมากกว่าเรื่องเงิน

 ชายคนนี้  เขาคือบุคคลต้นแบบ ที่ อีลอน มัส ยกย่องว่า อัจฉริยะจริงๆ แต่น่าเสียดาย เขาดันถูกลืมมาเป็นร้อยปี

 .

ใช่แล้ว เรากำลังหมายถึง นิโคลา เทสล่า  ชายคนนี้ เขาเปนใคร มีที่มาที่ไปอย่างไร มารับชมกันครับ

.


นิโคลา เทสลา เกิดเมื่อ 10 กรกฎาคม ปี1986 เขาเป็นคนเซอร์เบียโดยกำเนิด   โดยเกิดที่หมู่บ้านท่ามกลางภูเขา ชื่อเมือง กอสพิค  (ในอดีตของออสเตรีย-ฮังการี )  ปัจจุบันคือสาธารณรัฐโครเอเชีย  ในค่ำคืนที่เขาเกิดมานั้นท้องฟ้ามืดมืดแต่ปรากฏว่ามีสายฟ้าฟาดลงมาพร้อมกับเสียงดังดังสนั่นทั่วบริเวณ  แม่ของเขาพูดเล่นๆ ว่า เด็กคนนี้คงเกิดมาพร้อมสายฟ้า   พ่อของเขาชื่อ  คุณ มิลูติน เทสลา  เป็นบาทหลวง  นิกายออร์โธดอกซ์  ส่วนแม่ เขาคือ คุณ  ดูกา มานดิช   ครอบครัวนี้ มีลูก5คน เทสลาเป็นลูกคนที่สี่ จากห้าคน  เขามีพี่น้องเป็นผู้หญิงสามคน ได้แก่ มิลก้า แองเจลิน่า และมาริก้า  พี่ชายเทสล่า เขาประสบอุบัติเหตุตกม้าจนเสียชีวิต  พ่อคาดหวังว่า เทสล่า จะเป็น บาทหลวง ตามพ่อเขา

-

ความฉลาดของดูกา

ดูกา แม่ของเทสล่า เธอไม่เคยได้รับการศึกษาในระบบโรงเรียนแบบคนทั่วไป เธออ่านหนังสือไม่ออก เขียนไม่ได้ แต่ความจำเป็นเลิศมาก เธอสามารถท่องตำนานของชาวเซอเบียร์ ซึ่งมีความยาวหลาย 1000 คำได้แบบไม่ขาดตกบกพร่องเลยแม้แต่คำเดียวซึ่ง คาดว่า เทสล่า ได้ความอัจฉริยะส่วนหนึ่งจากผู้เป็นแม่ นี่เอง

.

ช่วงปฐมวัยของเทสล่า

-

วันหนึ่ง  เทสล่านั่งเล่นกับแมว เขาลูบขนแมวเล่น ทันใดนั้น ปรากฏว่า มีไฟฟ้าสถิต วิ่งผ่านมือเขา เขารู้สึกแปลกๆ แต่น่าสนใจมาก    พ่อของเขา อธิบายว่านี่คือการคบกันของไฟฟ้าสถิต  ตั้งแต่นั้น มา เรื่องนี้ มันก็จุดประกายในหัวเขาทันที   เด็กชายคนนี้เค้ามีนิสัยชอบอ่านหนังสือเป็นชีวิตจิตใจ เป็นที่น่าตกใจอย่างยิ่งเมื่อใดที่เขาป่วยถ้าได้อ่านหนังสืออาการป่วยจะหายไปทันที  เขาอ่านหนังสือทั้งวันทั้งคืนจนพ่อเค้าต้องห้ามเพราะอ่านนานจึงทำให้สายตาเริ่มมีปัญหา  ช่วงเวลากลางคืนเขาจุดเทียนอ่านหนังสือยาวนานมาก จนเกินไปทำให้พ่อของเขาต้องเอาเทียนไปซ่อนเพื่อไม่ให้อ่านหนังสือ เด็กน้อยคนนี้ก็เลยคิด ประดิษฐ์เทียนขึ้นใช้เอง 


หนึ่งในหนังสือที่เขาชอบอ่านคืองานวรรณกรรมของคุณ ม๊าก ทะเวน ทุกครั้งที่เค้าอ่านเขาจะได้จินตนาการใหม่ใหม่เสมอ หนังสือหลายเล่มเขียนบรรยาย ถึงน้ำตกไนแองการ่า โดยปกติมนุษย์ทั่วไปยังจะคิดถึงความสวยงามของน้ำตกความพริ้วไวความสดชื่น แต่สำหรับเทสล่า เค้าจินตนาการไปถึงความแรงของสายน้ำ ที่สามารถตกลงมาเพื่อปั่นใบพัดทำให้เกิดพลังงานบางอย่างซึ่งจะอย่างมหาศาลเพราะเป็นน้ำตกขนาดใหญ่  

.

สำหรับท่านที่จินตนาการความยิ่งใหญ่ของน้ำตกนี้ไม่ออก  ลองนึกถึงว่า น้ำตกมีความใหญ่ประมาณครึ่งกิโลเมตร ทรงครึ่งวงกลม น้ำมหาศาล น้ำไหลแรงพุ่งลงมาสู่ด้านล่างด้วยความสูง เท่ากับตึกสูง 20 ชั้น  มันยิ่งใหญ่จริงๆ


.

เทสล่า เป็นเด็กสุขภาพไม่แข็งแรงป่วยบ่อยมาก อาการที่เขาเห็นเป็นประจำคือแสงวูบวาบในหัว บางก็เป็นภาพหลอน เขามีอาการย้ำคิดย้ำทำ ด้วย

มีอยู่ครั้งนึงเค้าป่วยหนักอย่างรุนแรงอยู่ที่ห้องสมุด เขาค้นพบด้วยตนเองว่า อาการป่วยของเขาจะหายได้ทันทีถ้าได้อ่านหนังสือ รับเป็นเรื่องมหัศจรรย์มาก

.

ในวัยนี้ เขาเริ่มประดิษฐ์ เครื่องมือจับกบ ปืนอัดลม กังหันน้ำ  เขาบอกว่า แม่เขาเก่งกว่าเขาอีก

.

ในวัย 10 ขวบ เทสล่าได้เข้าเรียนหนังสือเค้าเป็นคนเรียนคณิตศาสตร์เก่งมาก ในขณะที่เด็กคนอื่นๆ สอบวิชาคณิตศาสตร์ต้องใช้กระดาษทดเลข แต่สำหรับเขา เขาสามารถคิดทุกอย่างเบ็ดเสร็จตั้งแต่ในหัวโดยที่ไม่ต้องใช้กระดาษทดทดเลย จนคุณครูเข้าใจผิดคิดว่าเค้าทุจริตในการสอบ คุณครูทำการทดสอบเขา โดยการนำข้อสอบคณิตศาสตร์ของนักเรียนในชั้นที่สูงกว่ามาให้ทำเขายังทำได้อย่างรวดเร็วและถูกต้อง ที่สำคัญไม่ต้องทดเลขอะไรเลย

.

ชีวิตเด็กมัธยม

เขาได้เข้าเรียนระดับมัธยมศึกษาที่โรงเรียนให้ ไฮเออเรียล จิมเนเซียม เขาสนใจมากที่สุดคือการเรียนวิทยาศาสตร์โดยเฉพาะการทดลองในห้องทดลองวิทยาศาสตร์ 


.

กลับบ้าน แต่ป่วยเกือบตาย

.

เทสล่า วัย 18 ปี เค้ารู้ในสิ่งที่ตัวเองรัก คือเขาอยากเป็นวิศวกร แต่อย่างไรก็ตามความคิดนี้ขัดแย้งกับผู้เป็นพ่อเพราะพ่อต้องการให้เขาเป็นบาทหลวง 

.

ในหลักสูตรการศึกษาสี่ปี เค้าเรียนสำเร็จได้ในเวลาเพียงสามปี หนึ่งปีที่เหลือ เขาตั้งใจว่าจะเดินทางกลับบ้าน ในสมัยนั้นมีโรคระบาดเกิดขึ้นมากมายที่บ้านของเขา แม่เขาจึงสั่งห้ามไม่ให้กลับบ้าน แต่เขาก็ไม่ฟังกลับมาจึงป่วยหนักมาก ป่วยติดต่อกันนานถึงเก้าเดือนเต็มเกือบถึงชีวิต  ในตอนนั้นถ้าเขาหายจากอาการป่วย มีทางเลือกอยู่สองทางคือหนึ่งไปเป็นทหาร  กับ สองไปเป็นบาทหลวง เขาไม่เลือกทั้งสองทาง เขาจะเป็น วิศวกรไฟฟ้า พ่อของเขาเลยบอกว่า ยอมให้เรียนวิศวะได้ เป็นที่น่าแปลกใจอย่างยิ่ง โรคร้ายก็หายไปทันที

.

ในปี 1875 เทสล่า ได้เข้าศึกษาต่อในวิทยาลัยเทคนิคทางทหารชื่อว่า อิมพีเรียล แอน รอยัล เทคนิคคอล อคาเดมี่  การเรียนที่นี่เค้าทำได้ดีที่สุด ลำดับที่ 1 และได้รับทุนการศึกษาตลอด  

.

ครั้งหนึ่ง ทางวิทยาลัย สั่งเครื่องจักร ที่ผลิตไฟฟ้ากระแสตรงมา เขาสนใจมาก เขาศึกษา แล้วเขาบอก อาจารย์ว่า ตัวนี้ไม่ค่อยดี ส่งไฟฟ้าไกลๆ ไฟฟ้าจะตกลง เพราะมีตัวต้านทาน อาจารย์เขาบอก ไม่น่าใช่นะ เริ่มขัดแย้งกันกับอาจารย์ แต่เขาก็คิดว่า จะหาทางพิสูจน์ให้ได้

.


 ในช่วงนี้เค้ายังหาได้พิเศษด้วยการทำงานในช่วงกลางคืนด้วย แต่ต่อมา ในปีที่สองของการเรียน เขาติดการพนัน  ในปีที่สาม  เทสล่า เอาทุนการศึกไปเล่นการพนันจนเกือบหมด แต่กลับมาคิดได้ จึงส่งส่วนที่เหลือให้ครอบครัวเขา ในที่สุดเค้าก็เรียนไม่จบจากวิทยาลัยนี้ เค้าไม่บอกให้คนในครอบครัวทราบและหนีไปอยู่ที่เมือง มาริบอ เมื่อพ่อเขาทราบเรื่อง ก็ตามมาขอให้เค้ากลับไปที่บ้านเก่า เขายอมกลับ แล้วต่อมาพ่อเขาก็เสียชีวิต ลุงของเขาอยากให้เขามีการศึกษา จึงรวบรวมเงิน และส่งเขาไปเรียนที่ ปร๊าก  ต่อมา ลุงเขาบอกว่า มีงานทำ ที่บูดาเปส  เพื่อนลุงเขาจะวางระบบโทรศัพท์ ให้เขามาเป็นวิศวกรให้หน่อย ทั้งๆ ที่เรียนไม่จบ แต่เขาฉลาด เขาช่วยปรับปรุงระบบใหม่ จนคนที่ทำงาน ยอมรับ ทุกคน ว่ากันว่า ที่นี่ เขาก็เริ่มมีสิ่งประดิษฐ์หลายอย่างแต่ไม่ได้จดสิทธิบัตรไว้

.

ในปี 1882 เขาทำงานให้กับ บริษัท คอนทิเนทอลเอดิสัน  หน้าที่ของเขาคือติดตั้งระบบไฟฟ้าแสงสว่างให้ทั่วเมือง การทำงานที่นี่ทำให้เขาได้ ประสบการณ์ในภาคปฏิบัติ และเกิดความชำนาญในวิชาวิศวกรรมไฟฟ้า  จนในที่สุดเขาสามารถสร้างเครื่องกำเนิดไฟฟ้าไดนาโมและมอเตอร์ได้  เขาถูกส่งไปแก้ปัญหาด้านวิศวกรรมทั่วทั้งฝรั่งเศสและเยอรมนี

.

ต่อมา  เขาได้รับมอบหมายให้ทำการติดตั้ง ระบบไฟฟ้าในโอเปร่าเฮ้าส์ ในปารีส

 ที่นี่ ใช้ระบบไฟฟ้า กระแสตรงกันทั้งเมือง รวมถึงที่นี่ด้วย เขาใช้โอกาสนี้ ทดลองระบบไฟฟ้ากระแสสลับ เขาทดลองสำเร็จ แต่เก็บความลับไว้

 เขาถูกย้ายไป สำนักงานใหญ่ ที่ อเมริกา เพราะเป็นคนเก่ง  คู่ใจเจ้านาย ระหว่างจะเดินทางไป อเมริกา เขาโดนขโมยเงิน จนเหลือเงินแค่ 4 เพนนี

.

ที่นี่ เขาได้พบ ผมกับ ตัวพ่อ อย่าง โทมัส อัลวา เอดิสัน   และแล้วเขาถูกส่งไปทำงานที่ โรงงาน เอดิสัน เมชขีน เวิค ส่วนของการผลิตเครื่องจักร เทสล่าเขาประทับใจเอดิสันมาก เพราะเขาเก่ง เขาขยันมากๆ เทสลา ก็ขยันมากกับการซ่อมไดนาโม ที่ติดตั้งบนเรือ ที่ต้องการให้มันปั่นไฟ ใช้เองได้

.

  เทสล่าบอกว่า เขาพยายามจะดัดแปลงเครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสตรงของเอดิสัน ให้มันปั่นไฟ ใช้บนเรือได้เอง เอดิสัน เขาก็คิดชื่นชมในใจ และกล่าวท้าทายเทสล่า ไปว่า ถ้าคุณทำมันได้ดีกว่าของผม ผมจะจ่ายให้คุณ 50,000 ดอลลาร์ ( ถ้าเทียบสมัยนี้น่าจะหลายล้านมาก ) 

.

 เทสลา ลงมือทำ ทันที ทำแบบได้ถึง 20 แบบ เอดิสัน เห็นแบบ แล้วทึ่ง และเห็นแนวโน้มว่า มันทำได้จริงๆ เราจะต้องเสียตังค์แน่ๆ 

.

เอดิสัน เห็นท่าไม่ดี  ยิ้มกลบเกลื่อน แล้วพูดเลี่ยงบาลี เพื่อไม่ต้องเสียเงินว่า นี่คุณไม่เข้าใจอารมณ์ขันของคนอเมริกันหรอ เขาหยอกกันเฉยๆ ไม่ได้จริงจังอะไร. 


เอดิสัน ผิดคำพูดต่อเทสล่า อย่างรุนแรง นี่ขนวนเหตุแห่งรอยร้าวของสองนักประดิษฐ์ 

เทสล่า ลาออก เพราะไม่ยอมรับพฤติกรรมแบบนี้ ของ เอดิสัน เทสล่าเขาหางานใหม่ แต่เศรษฐกิจไม่ดี เขาทำงานรับจ้างโดยใช้แรงงานขุดดิน รายได้วันละ 2 ดอลลาร์ 

ระหว่างนั้นเขาเล่า เรื่องไฟฟ้ากระแสสลับในที่ทำงานแต่ เจ้านายเขาได้ยิน และบอกว่า ตนมีคนรู้จักคนหนึ่ง ชื่อ บราว เขาเป็นช่างไฟฟ้า  ถ้าคุณสนใจ จะพาไปพบและลองสร้างดู มาดูกันสิ  ที่โม้ไว้มันจะทำได้จริงไหม

.

พอ บราวน์ ได้ฟังเทสล่าบรรยาย เขาก็จุดประกาย ชวน เทสลา เปิดบริษัท  เขาทึ่งมากในไอเดียนี้   บริษัทนี้ ตั้งขึ้นโดยใช้ชื่อว่า เทสล่าอิเลคทริค คอมพานี จดสิทธิบัตร ในปี1887

.

ในปี 1888  เทสล่าได้ เสนอโปรเจค ในมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ในงานนี้เขาได้พบกับ  จอจ เวสติ้ง เฮาส์ ซึ่งเขาเป็น นักธุรกิจใหญ่อยู่แล้ว  เวสติ้งเฮาส์  เขาสนใจมาก    ช่วงนั้น การส่งไฟฟ้า ทำได้ไกลสุดแค่ 2 กม.  เลยจากนั้น แรงดันไฟจะตก เวสติ้งเฮาส์ บอกนี่คือ โอกาสจะแข่งกับเอดิสันได้   เขาตกลง จะซื้อ สิทธิบัตรของ เทสลา เขาได้ขายสิทธิบัตรมาในราคา  60,000 ดอลลาร์  เทสล่ารวยอู้ฟู่ทันที

เขาส่งเงินให้ครอบครัว และ บราวน์ เขาเป็นคน กตัญญูมาก  เอดิสัน เริ่มสืบ ก็รู้ว่า เทสล่า อยู่ เบื้องหลัง เวสติ้งเฮาส์

.

เอดิสัน ต้องการให้ เทสล่า เสียชื่อเสียง เขาจึงคิด วิธี ทำให้ ไฟฟ้ากระแสสลับ ต้องตกเป็นจำเลยสังคมให้ได้ เอดิสันเขา เสนอให้ทางการ ใช้ไฟฟ้ากระแสสลับช็อตนักโทษ และสัตว์ต่างๆ  ถึงชีวิต และบอกว่า นี่คือ ข้อเสียของไฟฟ้ากระแสสลับ

.

ในสมัยนั้น มีภาพยนตร์บันทึกไว้ ที่ฮือฮาคือ ช็อตไฟฟ้าที่ช้าง จนล้มได้ แล้วบอกว่า เครื่องช็อตนี้ ของฝั่ง เทสล่าผลิต มันเลวร้านมาก ช่วงนั้น ทุกคน จดจำภาพลบ เพราะคิดว่า กระแสสลับมีโทษสูง   ทำให้ ธุรกิจของ เวสติ้งเฮาส์ ยำแย่ลง 

.

เทสล่า โคตรแมน เขาเห็นใจ จอจ เวสติ้งเฮาส์ และวัดใจโดยการไม่รับผลตอบแทน ใดๆ เขาทำการฉีกสัญญาสิทธิบัตร ที่ต้องชำระเงินให้เขา ทิ้งไปทันที  เพื่อนต้องช่วยเพื่อนในยามยาก

.

แล้วเขาก็เดินทางมาที่ นิวยอร์ก เขาทำห้องทดลองใหม่ และเชิญผู้เชี่ยวชาญมารับชมการทดลองของเขา  เขาลงทุนเอาตัวเอง เป็นสะพานไฟ โดยมือข้างหนึ่งถือหลอดไฟ มืออีกข้างจับสายไฟ ไฟฟ้าวิ่งผ่านตัวเขา ทันใดนั้นหลอดไฟก็สว่างจ้าขึ้นมา เขาสาธิตให้เห็นถึงความปลอดภัยของไฟฟ้ากระแสสลับ

.

ต่อมา เขาสร้างขดลวดเทศล่าขนาดใหญ่ บางคนเรียก เทศล่าคอยย์  ปล่อยกระแสไฟฟ้า เปนสายฟ้าพุ่งออกมาแบบฟ้าผ่า แต่เขานั่งอยู่โดยไม่อันตรายเลย

.

และเขาก็ยังสร้าง สนามแม่เหล็กหมุน หรือ ที่เราเรียกว่า มอเตอร์ ในปัจจุบัน นี่คือ ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ของโลกเลยทีเดียว  เพราะมันซ่อนอยู่ในแทบจะทุกอุปกรณ์ไฟฟ้าเลย

.

ในปี 1891 เขาได้เป็นพลเมืองอเมริกา เต็มตัว แม่เขาป่วยและเสียชีวิต กลับจากงานศพแม่ เขาได้ข่าวจาก  เวสติ้งเฮาส์ ว่า เขาชนะเลิศ ได้งานเป็นผู้ติดตั้งระบบไฟฟ้าในงาน เวิลด์ โคลัมเบีย เอกซ์โป งานนี้ ใช้หลอดไฟถึง 20000 หลอด จัดงานยาวนานถึง 6 เดือน เขาได้งานเพราะระบบไฟฟ้าเขา ต้นทุนต่ำกว่าเอดิสัน ที่สำคัญ ใช้เครื่องผลิตไฟฟ้า แค่เพียงตัวเดียวแต่สว่างได้ทั้งงาน นี่คือ ความพ่ายแพ้ของ เอดิสันเต็มรูปแบบ ชื่อเสียงของ เทสล่า กลับมาแล้ว

.

ต่อมา ในงานชิคาโกเวิลแฟร์  เทสล่า โชว์ไฟนีออนดัด ทำเป็น ป้ายไฟครั้งแรก 

.

ในปี1894 เขาเจอกับนักวรรณกรรม มาร์ก เทวน  สนิทสนมกัน  เทสล่า ก็คิดเครื่องแก้ท้องผูกให้เขา 

.

เขาเป็นคนแรกที่ประดิษฐ์เครื่อง เอกซเรย์ เรียกว่า ชาโดว์กราฟ แต่ไม่ได้จดสิทธิบัตร 

.

ต่อมา เขาไปที่น้ำตกไนแองการ่า เขาต้องการสร้างโรงไฟฟ้าที่นี่ เขาเสนอโปรเจค ให้ผู้ว่าการเมืองนิวยอร์คโดย บริษัท จอจ เวสติ้งเฮาส์  จนในที่สุดก็ได้รับการอนุมัติให้สร้างได้ งานสร้างครั้งนี้ยิ่งใหญ่จนมีการสร้างปฏิมากรรมที่ระลึกให้เทสล่าไว้ด้วย

.

เทสลาคิดค้นการส่งคลื่นวิทยุ การส่งภาพ และเสียง ในระยะไกลๆ    

.

ในปี 1901 มาโคนี่ ได้ทดลองส่งสัญญาณข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกสำเร็จ และจดสิทธิบัตร เทสล่าบอกว่า  เขาเปนคนดี ให้เขาทำต่อไป ทั้งๆ ที่มี 17 รายการซ้ำซ้อนกับเทสล่า  มาโคนี่ ได้รับรางวัลโนเบล แต่ 40 ปี ต่อมา ศาลกลับคำขอเพิกถอนสิทธิบัตรของมาโคนี่ ให้เป็นของ เทสล่า  

.

ต่อมา   ในงาน อีเล็คทริค เอ็กซิบิชั่น เทสล่าเปิดตัว งานประดิษฐ์เรือบังคับด้วยวิทยุตัวแรกของโลก 

เป็นต้นกำเนิด ของ โดรนบังคับ ระบบรีโมท อื่นๆ 

.

เทสล่าเขาสร้างหอคอย วอเดิลคลิฟ เพื่อทำโครงการไฟฟ้าไร้สาย ที่โคโลราโด่ ใช้ เงินลงทุน 2000000 ดอลลาร์ จาก เจพี มอร์แกน  แต่มาขัดแย้งกันเชิงนโยบาย เทสล่าต้องการให้คนใช้ฟรี แต่ เจพีมอร์แกน จะทำธุรกิจ  ทำให้โครงการต้องล้มเลิกไป 

.

ต่อมา เขาก็ทำห้องแล๊บขึ้น แต่ก็เกิดไฟไหม้ มีความสูญเสียอย่างมาก เขาจึงย้ายไปอยู่ที่ นิวยอร์ก โรงแรมเดอะนิวยอร์กเกอร์ ห้อง 3327 ที่นี่ ในวัย 86ปี เขาใช้ชีวิตคนเดี๋ยวยวแค่ในห้อง และออกสู่ภายนอก แค่ตอนกลางคืนเพื่อ เอาอาหารให้นกพิราบ เขาประทังชีวิตด้วย แครกเกอ และนม เท่านั้น


  ก่อนเสียชีวิต คืนหนึ่ง เทสล่าลงมาและถูกรถแกซี่ชน เขาบาดเจ็บ แล้วขึ้นไปเสียชีวิตที่ห้องพัก FBI เขารื้อค้นทรัพย์สินของเขา ทำให้ เอกสารสำคัญบางอย่างของเขา หายไป 


.

ในปี 19660 หลังการเสียชีวิตของเทสล่า 17 ปีชื่อของเทสล่าได้รับเกียรติ ให้ใช้เป็นชื่อหน่วยความหนาแน่นของเส้นแรงแม่เหล็กหรือการเหนี่ยวนำด้วยพลังแม่เหล็ก

.

โรคประหลาดของเทสล่า

เทสล่า เขามีอาการประหลาดต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับร่างกายของเขา ทำให้เขากลัวการสัมผัสทางร่างกายกับบุคคลอื่น เขาจึงปฏิเสธความสัมพันธ์กับเพศตรงข้าม และการแตะเนื้อต้องตัวหรือการจับมือกับใคร ได้แต่โกหกว่ามือของเขาได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุในห้องทดลอง นอกจากนี้ เทสลามีปัญหาทางประสาทในวัยเด็ก ที่เขาต้องทุกข์ทรมาน จากโรคย้ำคิดย้ำทำ เขาบอกว่า มันมีแสงแว๊บเข้าตา จากนั้น แค่ได้ยินเสียงสิ่งของ เขาสามารถ เห็นรายละเอียดได้ทุกชิ้นส่วนเลย เขาป่วยหนักต่อมา เกิดอาการประสาทไวต่อสิ่งเร้า เขาอยู่ในแสงจ้าไม่ได้ แสงจะแผดเผาผิวเขาจนพุพอง

.

พฤติกรรมแปลกๆ ของเขา

ทานอาหาร ก็ต้องใช้ไม้บรรทัดวัดขนาด วัดความจุ ในแต่ละมื้อ เสื้อผ้าต้องมีสีขาวนำ ต้องเรียบสะอาด ตลอดเวลา เขามักจะทำสิ่งต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันซ้ำ ๆ หลายครั้ง จนกว่าจำนวนครั้งที่ทำจะหารด้วย 3 ได้ลงตัว ถ้าไม่ลงตัวเขาจะทำใหม่จนกว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ เช่น การนับก้าวเดิน จำนวนครั้งที่นิโคลาชอบเป็นพิเศษคือ 27 เพราะว่ามันเท่ากับ 3 ยกกำลัง 3 ( 3x3x3 )

.

ความรู้เพิ่มเติม

-

กระแสไฟฟ้าบนโลกเรามีอยู่ 2 แบบ คือ กระแสไฟฟ้าแบบตรง (DC) ที่พัฒนาโดย ทอมัส เอดิสัน และ กระแสไฟฟ้าแบบสลับ (AC) ของ เทสลา โดยกระแสไฟฟ้าแบบสลับของเทสลานั้นมีความพิเศษตรงที่สามารถส่งออกไฟฟ้าในระดับแรงดันสูง ๆ ได้โดยที่แรงดันไฟฟ้าไม่ตก

-

เทสล่า เขาเคยกล่าวถึงศาสนาพุทธว่า

ศาสนาพุทธและศาสนาคริสต์เป็นศาสนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดทั้งในจำนวนศาสนิกและความสำคัญ

-

ผลงานโดดเด่นของเทสล่า

เขาเป็นเจ้าของสิทธิบัตร 112 ฉบับ ในสหรัฐอเมริกา และ 196 สิทธิบัตรจดทะเบียนในประเทศอื่นๆ ตัวอย่างผลงานที่โดดเด่นมากๆ เช่น

-

1.ผู้ประดิษฐ์ขดลวดเทสลา และค้นพบวิธีการเปลี่ยนสนามแม่เหล็กเป็นสนามไฟฟ้า จึงเป็นที่มาของหน่วยวัดสนามแม่เหล็กเทสลา

2.ผู้ค้นพบวิธีการสื่อสารแบบไร้สาย 

3.ผู้ประดิษฐ์หลอดไฟแบบใช้ก๊าซให้แสงสว่าง หรือ หลอดฟลูออเรสเซนต์

4.ผู้คิดทฤษฎีของเครื่องเรดาร์

5.ผู้คิดรีโมตคอนโทรล

6.ระบบไฟฟ้ากระแสสลับ

7.แหล่งจ่ายพลังงานไฟฟ้า


ขอขอบคุณ


ช่องยูทูป Fndiary  และ

ช่องยูทูป techoffside และ

ช่องยูทูป  the why files และ

ช่องยูทูป  Charlie solis และ

เว็บไซต์ stkc.go.th และ

เว็บไซต์  altv.tv และ

เว็บไซต์ ปลูกปัญญา. com



 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น