วันพฤหัสบดีที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2567

เปิด ประวัติเจ้าพ่อ ไมโครซอฟท์

 นี่คือ ชายคนที่ นิตยสารฟอบส์ ได้จัดอันดับให้ เป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกหลายปีติดต่อกัน

-

ชายคนที่ แฮ็กคอมพิวเตอร์เป็นตั้งแต่อายุ 13 และเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ตั้งแต่อายุ 17 ปี

-

ชายคนที่ ครองสถิติรวยที่สุดในโลกทั้งหมดมากถึง 18 ปีเต็ม

-

ชายคนที่ รู้จัก พอในชีวิตการงานและความมั่งคั่ง แล้วต่องานการกุศล ด้วยอุทิศตน ทุ่มเทเพื่อคนอื่น อย่างน่าจดจด

-

ชายผู้บุกเบิกด้านคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล จนติดตลาดโลก

-

ชายคนที่เรียนเก่ง แต่เรียนไม่จบ และลาออกจากการเรียนมหาวิทยาลัยเพื่อร่วมก่อตั้งบริษัท

-

ชายคนที่ IBM จ้างเขียนโปรแกรม ในราคาสูง 50,000 ดอลลาร์ ( ในหลายสิบปีที่แล้ว ถือ เป็นเงินมหาศาลมากเลย นะ)

-

ชายคนนี้ เขาคือ  บิล เกตส์   เขาเป็นผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท microsoft เขาเกิดเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 1955 ใน seattle washington ประเทศสหรัฐอเมริกา คุณพ่อของเขาชื่อ วิลเลี่ยม เฮนรี่ เกต คุณแม่ของเขาชื่อ แม็กซ์เวล เกต

พ่อของเขาเป็นทนายความคนที่เก่งกาจ หา ตัวจับยาก   ส่วนแม่เคยเป็นครูและต่อมาได้กลายเป็นผู้บริหารในบริษัทการเงินและองค์กรการกุศล

.

เริ่ม วีรกรรมแสบๆ

-

บิลเกตส์ เขาเริ่มเรียนหนังสือที่ เลกไซสคูล และ เริ่มให้ความสนใจในเรื่องการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ตั้งแต่เด็ก

-

 ในวัยเพียง 13 ปี  ประมาณ ม.2 เขาได้เห็นโปรแกรมตัวแรกอยู่บนคอมพิวเตอร์ของโรงเรียน และสนใจมาก เขาสนใจเครื่องคอมพิวเตอร์มาก ถึงขนาดยอมโดดเรียนไปแอบเล่นคอมพิวเตอร์กับเพื่อนซี้ Paul Allen  (ซึ่งต่อมาก็คือผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Microsoft )  ปกติทางโรงเรียนจะกำหนดให้นักเรียนเล่นคอมพิวเตอร์แค่ไม่กี่ชั่วโมง แต่ทั้งสองก็แอบแฮ็กเข้าไปเปลี่ยนระบบเวลาให้พวกเขาได้เล่นแบบไม่จำกัดจนระบบล่มหลายต่อหลายครั้ง รวมถึงแก้ตารางเรียนของนักเรียนหญิงหน้าตาดีให้มาเข้าเรียนตรงกันกับพวกเขาด้วย

-

วีรกรรมครั้งนี้ ทำให้เขาโดนสั่งห้ามเล่นมันอีก แต่ ยัง ยัง ไม่หยุด ทั่งคู่ เขาติดต่อไปที่บริษัทเจ้าของคอมพิวเตอร์ที่โรงเรียนเช่ามา เพื่อบอกข้อบกพร่องต่าง ๆ ของระบบจนทำให้พวกเขาสามารถแฮ็กได้เพื่อขอแลกเปลี่ยนกับการที่พวกเขาจะกลับเข้ามาใช้งานคอมพิวเตอร์ได้อีกครั้ง   ว้าว.. แฮกเกอร์ผู้มีศีลธรรม

.

ต่อมาในช่วงมัธยมปลาย เขาและเพื่อน ก็เริ่มพัฒนาระบบบัญชีเงินเดือนของโรงเรียน

.

ในขณะที่เขามีอายุเพียง 17 ปี เขาได้ร่วมกันก่อตั้งกิจการ กับ พอล แแลเลน ที่เรียกว่า  ทราฟ โอ ดาต้า   ซึ่งซอฟต์แวร์ตัวนี้ เป็นแพลตฟอร์มเก็บข้อมูลบนถนนและวิเคราะห์ข้อมูลให้กับวิศวกรการจราจร แต่สุดท้ายไม่ประสบความสำเร็จ ขาดทุนไปราว 3,494 ดอลลาร์

-

เขาสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนมัธยมในปี 1973 ผลการเรียนของบิลเกตนั้นเป็นที่สุดจริงๆ  เขาทำคะแนนได้ 1590 คะแนนจากทั้งหมด 1,600 คะแนนในการสอบ SAT เขาทำคะแนนได้ดีขนาดนี้ แต่กลับเลือกปฏิเสธมหาวิทยาลัยระดับโลก เลือกไปเรียนกฎหมายตามพ่อที่เป็นทนายความ แต่ในเวลาว่างจากการเรียน เขามักจะใช้เวลาจดจ่ออยู่กับเรื่องคอมพิวเตอร์ที่เขาชอบ (ถึงจะไม่ได้เรียนที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด แต่ให้หลัง 32 ปี ในปี 2007 เขาก็กลับไปรับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด)

.

ในปีเดียวกันนั้น เขาก็ลงทะเบียนเรียนต่อที่วิทยาลัยฮาร์เวิร์ด  ดูเขาจะเป็นคนคลั่งไคล้คอมพิวเตอร์เสียมาก เพราะเขา ใช้เวลาส่วนใหญ่คลุกคลีอยู่กับคอมพิวเตอร์มากกว่าการเรียนหนังสือด้วยซ้ำไป

.

บิล เกตส์ เห็น แสงสว่างแล้ว ว้าว มันจ้ามาก มันจ้ามาก นี่แหละ อนาคตเรา

--

มีครั้งหนึ่ง เขาได้อ่านเจอเรื่องราวของ “ไมโครคอมพิวเตอร์” รุ่นใหม่ที่มีชื่อว่า Altair BASIC 8800 ในบทความของนิตยสาร Popular Electronics Altair BASIC คือภาษาโปรแกรมระดับสูงภาษาแรกที่ใช้กับไมโครคอมพิวเตอร์  ตัวเค้าเอง แน่นเรื่องการเขียนโปรแกรมอยู่แล้ว เค้าเลยมองว่า นี่คือ โอกาสทางธุรกิจ เพราะคอมพิวเตอร์กำลังจะได้รับความนิยมในวงกว้าง เพราะจะมีขนาดเล็กลงกว่ารุ่นก่อน ๆ ที่มีขนาดใหญ่และใช้ยาก และ ที่สำคัญเลย   สิ่งที่คอมพิวเตอร์ขาดไม่ได้ก็คือ ซอฟต์แวร์หรือระบบปฏิบัติการที่จะทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงานตามคำสั่งของผู้ใช้ ....ว้าวมาก ฉลาดจริงๆ

-

บิล เกตส์  และ พอล แอลเลน ชวนกันติดต่อไปที่บริษัท MITS  ซึ่งเป็นเจ้าของเครื่อง Altair BASIC 8800  และโม้ว่า ตนเองมีโปรแกรมที่ ใช้กับมันได้ดีมาก ทั้งที่ยังไม่ได้เขียนเลย เหตุนี้เอง เขาเลยถูกชวนให้ไปร่วมงานใน บริษัท MITS

-

ต่อมาในปี 1975  บิล เกตส์ เขายังเรียนอยู่ แต่ในหัวนี่ หมกหมุ่นแต่คอมพิวเตอร์ จน พอล เอ่ยปากว่า คุณรักมันมาก ก็ออกมาทำมันเลยสิ เขาทั้งสอง  ก็ร่วมกันก่อตั้งบริษัท ไมโครซอฟท์ ขึ้นมา  ในวัย 21 ต้องตัดใจลาออกจากการเรียนมหาวิทยาลัยเพื่อร่วมก่อตั้งบริษัท

.

ในช่วงแรกๆนั้นพวกเขาได้ทำการปรับภาษาในการเขียนโปรแกรมยอดนิยมต่างๆ ให้ลงมาใช้งานบน micro computer ให้ได้  จุดนี้เองทำให้เป็นการพิสูจน์ได้ว่า คอมพิวเตอร์ของ microsoft นั้นสามารถใช้เขียนโปรแกรมเพื่อระบบต่างๆได้ดี

.

ในปี 1980 ผลงานของเขาก็เข้าตา IBM  พวกเขาได้รับการท่าทางจากบริษัทไอบีเอ็ม   เพื่อให้เขียนตัวแปลภาษา เบสิก เพื่อบรรจุลงในคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลในแบรนด์ของ บริษัท IBM

.

แต่เขาก็ไม่หยุดพัฒนา microsoft ยังเขียนระบบปฏิบัติการสำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่เรียกว่า PC DOS  พวกเขาเขียนซอฟต์แวร์ตัวนี้ส่งมอบให้บริษัท IBM  แลกกับค่าธรรมเนียมสูงถึง 50,000 บาทดอลลาร์ ทำให้ IBM ขายดีถล่มทลาย เมื่อเจ้าอื่นรู้ก็แห่กันมาสิครับ รวยเละเลยคราวนี้

.

ต่อมาในวันที่ 20 พฤศจิกายนปี 1985 microsoft ได้เปิดจำหน่ายซอฟต์แวร์ ชื่อ microsoft windows  ซึ่งมันอยู่บนพื้นฐานของ ระบบ microsoft dos

.

ในเดือนสิงหาคมของปีถัดมา  microsoft ได้ทำสัญญากับบริษัท ibm  เรื่องการแย่งระบบปฏิบัติการใหม่ซึ่งเราเรียกว่า os/2

—----------------------------------------------

.

13 มี.ค. 1986 บิล เกตส์ ได้นำพา Microsoft เข้าสู่ตลาดหุ้น Nasdaq ได้สำเร็จ

-

หลายปี มา windows เป็นระบบปฏิบัติการยอดนิยมของบุคคลทั่วไป มันเข้าครอบครองตลาดคอมพิวเตอร์ทั่วโลก เรียกได้ว่าคอมพิวเตอร์ 90% ทั่วโลกกลายเป็นของ microsoft ไปแล้ว

.

ด้วยส่วนแบ่งการตลาดที่สูงขนาดนี้ทำให้ บิลเกตส์ ประสบความสำเร็จทางด้านการเงินอย่างสูง

.

ไม่ใช่จะเพียง บิล เกต คนเดียวที่ร่ำรวยในครั้งนี้ แต่ผู้ถือหุ้นรายต่างๆของ microsoft ก็พากันอู้ฟู่มั่งคั่งเต็มไปหมด  บิลเกตส์ คือ บุคคลที่รวยที่สุดในโลกต่อเนื่องกัน 13 ปี และหากรวมถึงปี 2014-2017 ที่เขากลับมาทวงตำแหน่งได้อีกครั้ง รวมแล้วเขาครองสถิติรวยที่สุดในโลกทั้งหมดมากถึง 18 ปี

.

ยังไม่จบเพียงเท่านี้ในปี 1989 microsoft เดินหน้าเปิดตัวโปรแกรมสำนักงานชื่อ microsoft office  โปรแกรมในชุดนี้ชื่อว่าหลายท่านคงเคยได้ใช้เช่นโปรแกรม microsoft word โปรแกรม microsoft excel โปรแกรม microsoft powerpoint และอื่นๆ

.

นับเป็นการจัดชุดโปรแกรมมาเพื่อให้ทำงานได้อยู่ในที่เดียวทั้งหมด ถ้าเป็นยุคนี้คงเรียกว่าจักรวาลของ microsoft

.

ความสำเร็จในรอบนี้ดูเหมือนจะทำให้ microsoft office กลายเป็นผู้ผูกขาดในคอมพิวเตอร์บุคคลไปซะแล้ว

.

ความรักของบิลเกต

.

บิลเกตได้พบกับ เมอรินด้า  เฟรนช์ ในกี 1989  เธอคือ ผู้หญิงสาวสวยที่ทำงานใน microsoft เขาและเธออายุห่างกัน 10 ปี  เขาและเธอได้สมรสกันที่  เกาะฮาวาย ในวันที่ 1 มกราคมปี 1994 ในขณะนั้นบิวเคดมีอายุ 38 ปีและเมอรินด้ามีอายุเพียง 29 ปี

.

ต่อมาเขาและเธอก็มีบุตรด้วยกัน 3 คน

.

ในปี 1990 microsoft ก็ได้เปิดตัว ระบบปฏิบัติการเป็นเวอร์ชั่นแรกของ ไมโครซอฟท์เอง ในนาม windows 95  ( มาถึงจุดนี้เชื่อว่าใครหลายคน คงเกิดทันและได้ใช้มันนั่นแปลว่าคุณต้องมีอายุไม่น้อยกว่า 40 แน่นอน  )

.

microsoft ได้พัฒนาอย่างต่อเนื่องและทยอยเปิดตัว windows รุ่นใหม่ๆเช่น windows 2000 windows XP และ windows vista

-

ห้วงเวลาแห่งการสูญเสีย และจุดเริ่มต้นของการให้

-

ในปี 1994 แม่เขาจากไปจากโรคมะเร็ง ทำให้เขาเสียใจอย่างมากระดับสติแตก ครั้งหนึ่ง เขาถูกตำรวจเรียกให้หยุดรถหลังขับรถด้วยความเร็วสูง แต่การสูญเสียแม่ก็ผลักดันให้เขาหันมาทำงานการกุศลมากขึ้นตามความตั้งใจที่แม่ฝากเอาไว้กับเขาผ่านจดหมายที่เขียนถึงลูกสะใภ้ Melinda Gates ในงานแต่งงานว่า “ยิ่งให้ก็ยิ่งได้” หลังจากนั้นอีก 6 เดือน Mary ก็เสียชีวิต หลังจากนั้น Bill บริจาคเงิน 10 ล้านดอลลาร์ให้กับมหาวิทยาลัยวอชิงตันเพื่อจัดตั้งทุนการศึกษาในชื่อ Mary Gates

-

ในปี 1998 กระทรวงยุติธรรมของสหรัฐฯ ฟ้อง Microsoft ต่อศาลในข้อหามีพฤติกรรมต่อต้านการแข่งขันในตลาดหรือผูกขาดตลาดจากกรณีที่ Microsoft จำหน่ายเว็บเบราว์เซอร์ Internet Explorer (IE) พ่วงไปกับระบบปฏิบัติการ Windows ที่เป็นที่ต้องการของคนจำนวนมาก ต่อมาในปี 1999 ศาลได้ตัดสินให้ Microsoft ต้องแยกขายระบบปฏิบัติการและเว็บเบราว์เซอร์รวมถึงซอฟต์แวร์อื่น ๆ ที่ไม่ใช่ระบบปฏิบัติการออกจากกัน เขาถูกสั่งให้จ่ายค่าปรับต่อคณะกรรมาธิการยุโรปที่ตัดสินว่า Microsoft มีพฤติกรรมละเมิดมาตรฐานด้านความสามารถในการแข่งขัน โดยต้องจ่ายค่าปรับมากถึง 794 ล้านดอลลาร์

.

ลงจากตำแหน่ง ส่งไม้ต่อ

.

ในปี 2000 เดือนมกราคม อยู่เขตประกาศลงจากตำแหน่ง CEO ของ microsoft อย่างสง่างาม

.

แต่เขาก็ยังรักในงานที่ทำ จึงสร้างตำแหน่งให้ตัวเองในนาม หัวหน้าสถาปนิกซอฟต์แวร์ ของไมโครซอฟต์  แต่ยังคงตำแหน่งประธาน microsoft ไว้

.

ทั้งนี้ ในส่วนในงานด้านอื่นๆ นั้นเขาค่อยๆ ถ่ายโอนให้กับ CEO คนใหม่ต่อไป

.

ในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2014 เขาก็ประกาศอำลตำแหน่งประธาน microsoft อีกครั้ง

.

และผันตัวเองไปเป็นที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีให้กับ CEO คนใหม่  นั่นก็คือ คุณสัตยา นาเดลา

.

บิล เกตส์ และภรรยาของเขาได้รับรางวัลสูงสุดที่มอบให้พลเรือน ในระดับ 3  ในด้านการทำงานเพื่อสังคมในประเทศอินเดีย

.

ในปี 2016 ประธานาธิบดี ปารัก โอบามา  มอบเหรียญเชิดชูเกียรติซึ่งเป็นเหรียญแห่งน่าชื่นชมในการอุทิศตนเพื่แการกุศล

-

แนวคิดบิลเกตส์

-

“ความสงสัย” เป็นกุญแจสำคัญของผู้นำในการแสวงหาความรู้ไม่มีที่สิ้นสุดและมันก็ได้พิสูจน์มาหลายครั้งตลอดชีวิตของเขาว่า การมีความรู้ไว้เต็มกระเป๋า ช่วยให้เขาเตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงตลอดช่วงที่เขาดำรงตำแหน่ง CEO ของบริษัท Microsoft

-

ลำดับความสำคัญ

-

“สำคัญหรือไม่สำคัญ” และตัดสินใจได้ว่างานใด “เร่งด่วนหรือไม่เร่งด่วน” จากนั้นต้องจัดลำดับความสำคัญให้ถูกต้อง เหมาะสมกับสถานการณ์ เพราะแน่นอนว่า ใคร ๆ ก็รู้หลักการของว่า สิ่งที่สำคัญและเร่งด่วนคือสิ่งที่ต้องทำเป็นอันดับแรก แต่บทที่จะต้องทำจริง ๆ หรืออยู่ในสถานการณ์ที่ยาก การฝึกฝนเป็นประจำจะช่วยให้เรารู้และตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

-

.

ขอคำคมๆ หน่อยครับ

-

มันก็ดีนะที่จะยินดีกับความสำเร็จ แต่ที่สำคัญกว่าคือบทเรียนแห่งความผิดพลาด

-


“การเฉลิมฉลองความสำเร็จนั้นเป็นเรื่องที่ดี แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือการใส่ใจบทเรียนจากความล้มเหลว”

-


นี่เป็นช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมในการเข้าสู่โลกธุรกิจ เนื่องจากธุรกิจจะมีการเปลี่ยนแปลงมากขึ้นในอีก 10 ปีข้างหน้า มากกว่าที่เคยเปลี่ยนแปลงมาในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา

-

ลูกค้าที่ไม่พึงพอใจที่สุดของคุณคือแหล่งเรียนรู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของคุณ”

-

ทรัพย์สินทางปัญญามีอายุการเก็บรักษาเท่ากับกล้วย

-

“กฎข้อแรกของเทคโนโลยีใดๆ ที่ใช้ในธุรกิจก็คือ การใช้ระบบอัตโนมัติกับการดำเนินการที่มีประสิทธิภาพจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ประการที่สอง การใช้ระบบอัตโนมัติกับการดำเนินการที่ไม่มีประสิทธิภาพจะยิ่งทำให้ประสิทธิภาพมากขึ้น

-

ขอขอบคุณ

inc.com  และ

brainyquote.com   และ

finnomena.com  และ

Business insider.com  และ

moneybuffalo.in.th   และ

วิกิพีเดีย