ประวัติ ครูบาฉ่าย คัมภีรปัญโญ แห่งวัดป่าบ่อน้ำพระอินทร์
ครูบาฉ่าย คัมภีรปัญโญ แห่งวัดป่าบ่อน้ำพระอินทร์
พระผู้ซึ่งแสดงธรรมะที่ดุดัน ชัดแจ้ง เป็นไปเพื่อความหลุดพ้นอย่างแท้จริง
-
ครูบาฉ่าย คนอุดร ท่านเล่าว่า ท่านเป็นเหมือนบุคคลทั่วไป
ตามประสาวัยรุ่น จะดีก็ไม่ดี จะชั่วก็ไม่ชั่ว ตามปกติ
ท่านจบด้านศิลปะ ต่อมาได้เปิดโรงงานหล่อพระ
ระหว่างนั้นก็ศึกษาธรรมะด้วย รวมถึงทุกศาสนา
-
เหตุที่ศึกษา ท่านสงสัยว่าเราเกิดมาทำไม
ตอนเด็กๆ เพื่อนพาไปศาสนาอะไรก็ไปหมด
เรียกว่าไร้ศาสนา ก็ว่าได้
ตอนนั้น ท่านไม่เชื่อสนิทใจในศาสนา ทำตามปกติงั้นๆ
เข้าร่วมเฉยๆ เพราะศาสนาไม่ตอบโจทย์อะไรเลย
จึงศึกษาหมดทุกศาสนา
ศึกษาแบบทั้งเจาะลึก และผิวเผิน
ในใจลึกๆ ท่านสงสัยว่าเราเกิดมาทำไม
แต่พิเศษ สำหรับศาสนาพุทธนั้น
ท่านอ่านพระไตรปฏก มาจนหมดสิ้น
-
ครั้งหนึ่ง ท่านนั่งฟังนิยาย เพชรพระอุมา
ในยูทูป แต่โฆษณาคั่นเปน ธรรมะ
เป็นคลิปธรรมะของท่าน หลวงพ่อชา สุภัทโท
เรื่อง สมมุติ และ วิมุติ ด้วยความที่ท่านขี้เกียจกดข้าม
เลยฟังต่อ ท่านทนฟังเฉยๆ ด้วยลักษณะ
การนำเสนอน่าฟัง เลยฟังต่อเรื่อย ไม่ข้าม
เนื้อหาในคลิปคือ
หลวงพ่อชาท่านถามว่า มีใครรู้ว่าวันเกิดตัวเองไหม
ในใจทุกคนคิดว่า รู้สิ
ท่านถามอีกว่า ถ้าพ่อแม่โกหกละ ถ้าเขาแจ้งวันเกิดผิดละ ?
ครูบา ท่านสะกิดใจในคำตอบ ว่า นี่คือคำตอบที่จริงสุด
เราเชื่อแค่ตามเขาบอก
หลวงพ่อชา ท่านพูดเรื่องจริง พูดจริงท่สุด เท่าที่เคยได้ยินมา
ท่านจริงเริ่มศีกษาต่อ
-
ช่วงแรก ท่านไม่ปฏิบัติ เน้นฟังอย่างเดียว
ต่อมา เลยอยากบวช ปกติท่านมีนิสัย ชอบแก้ปัญหา
ชอบหาคำตอบ เป็นทุนเดิม
คลิปที่ท่านฟัง เป็นคลิปของหลวงตามหาบัว เป็นหลัก
ฟังจนศรัทธา จนเชื่อเพราะท่านเล่า
คราวนี้จึง อยากลองของจริง
พอปิดเทอมเลยกลับ อุดรธานี มาบวช
-
ท่าน ไม่เคยรู้มาก่อนว่า พุทธศาสนา มี 2 นิกาย
ไม่รู้ข้อปฏิบัติอะไรทั้งสิ้น บวชวัดบ้านๆ ทั่วไป
แม่แนะนำ เพราะเจ้าอาวาสเป็นญาติกัน
พอบวชแล้วศรัทธา ความเพียรตามมา
พยายามทำตามพระวินัยเต็มกำลัง
-
ท่านเล่าว่า
เราไม่รู้ว่าธรรมะคืออะไร จึงเน้นสมาธิเป็นหลัก
เน้นตามหา ความสงบก่อน
ต่อมาไปเจอหนังสือ มุดโตทัย ของหลวงปู่มั่น
เล่มนั้น เก่าๆ บางๆ ปลวกเจาะแล้ว
-
หนังสือ ท่าบอกให้ นั่งเหมือน พระพุทธรูป ตั้งใจ
หายใจเข้า พุทธ หายใจออก โธ
หายใจเข้า ธรรม หายใจออก โม
หายใจเข้า สัง หายใจออก โฆ
-
ทำแล้วได้ทั้งความสงบและไม่สงบ ทำไปเรื่อยๆ
ท่านให้เลือกเอาคำบริกรรมสัก1 อย่างมาแนบติดกับลมหายใจ
-
หนังสือทำนบอกแค่นี้ อาการใดจะเกิดแล้วแต่วาสนาของบุคคล
ตอนบวช ท่ารับกรรมฐาน 5
ท่านก็คิดอยู่กับกับ กรรมฐาน ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง
ไม่คิดถึงอนาคตและ อดีต ใจไม่วุ่นวายในอนาคตและอนาคต
ทำเรื่อยๆ จนวันที่ 7 ที่บวช จนล้า กำลังนอนพัก
ในใจท่านจั้งใจว่า ตื่นเมื่อไหร่ จะปฏิบัติ ทันที
-
รู้ตัวอีกทีตอนตี1 ครึ่ง ท่านอยากเข้าห้องน้ำแต่อยู่ไกล เพราะห้องน้ำแยก
เลยคู้ขานัั่งรอ จนฝนหยุด ทำพุทโธไปเรื่อยๆ เพื่อรอฝน
-
ทันใดนั้น… สภาวะความเจ็บปวดของกายหาย หายไปตอนไหนไม่รู้
ลมหายใจหาย เสียงฝนตกที่ลงแผ่นสังกะสี ดับหาย ร่างกายไม่มี
ลืมปวดฉี่สนิทตอนไหนไม่รู้ ลืมหมด
ความรู้ทั้งหมดไปอยู่ในความเบาลออยู่ สว่างไสว เพลินอยู่นั้นนาน
ไม่รู้วันเวลา นานเท่าไหร่ไม่รู้ ไม่มีความคิดใดๆอยู่เลย
ไม่ปรุงแต่ง ไม่มีความจำ มีแต่ความรู้ ล้วนๆ
บังคับบัญชาไม่ได้ ท่านว่า ขันธ์ขาด แต่เราไม่รู้ตัวไม่รู้จัก
-
เวลา 8 โมง เช้า จิตท่าน คลาย นานกว่าจนลืมตา เริ่มได้ยินเสียงต่างๆ
พุทโธกลับมา ลืมตาอีกที 8 โมงเช้า ความปิติท่วมท้น ความสุขทำให้ท่านต้องร้องไห้ ท่านเล่าว่า มันอิ่ม สดชื่น ไม่ฉัน 3 วันอยู่ได้สบายๆ นี่คือครั้งแรก
แต่ท่านไม่รู้จัก ว่ามันคืออะไร
-
ที่มา ช่องยูทูบ พระสิ้นคิด
ตอน ประวัติครูบาฉ่าย คัมภีรปัญโญ กับการสนทนาผ่าน live ครั้งแรก (คลิปปี65) #ครูบาฉ่าย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น