วันพุธที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

ประวัติ ครูบาฉ่าย คัมภีรปัญโญ แห่งวัดป่าบ่อน้ำพระอินทร์

 ครูบาฉ่าย คัมภีรปัญโญ แห่งวัดป่าบ่อน้ำพระอินทร์




พระผู้ซึ่งแสดงธรรมะที่ดุดัน ชัดแจ้ง เป็นไปเพื่อความหลุดพ้นอย่างแท้จริง - ครูบาฉ่าย คนอุดร ท่านเล่าว่า ท่านเป็นเหมือนบุคคลทั่วไป ตามประสาวัยรุ่น จะดีก็ไม่ดี จะชั่วก็ไม่ชั่ว ตามปกติ ท่านจบด้านศิลปะ ต่อมาได้เปิดโรงงานหล่อพระ ระหว่างนั้นก็ศึกษาธรรมะด้วย รวมถึงทุกศาสนา - เหตุที่ศึกษา ท่านสงสัยว่าเราเกิดมาทำไม ตอนเด็กๆ เพื่อนพาไปศาสนาอะไรก็ไปหมด เรียกว่าไร้ศาสนา ก็ว่าได้ ตอนนั้น ท่านไม่เชื่อสนิทใจในศาสนา ทำตามปกติงั้นๆ เข้าร่วมเฉยๆ เพราะศาสนาไม่ตอบโจทย์อะไรเลย จึงศึกษาหมดทุกศาสนา ศึกษาแบบทั้งเจาะลึก และผิวเผิน ในใจลึกๆ ท่านสงสัยว่าเราเกิดมาทำไม แต่พิเศษ สำหรับศาสนาพุทธนั้น ท่านอ่านพระไตรปฏก มาจนหมดสิ้น - ครั้งหนึ่ง ท่านนั่งฟังนิยาย เพชรพระอุมา ในยูทูป แต่โฆษณาคั่นเปน ธรรมะ เป็นคลิปธรรมะของท่าน หลวงพ่อชา สุภัทโท เรื่อง สมมุติ และ วิมุติ ด้วยความที่ท่านขี้เกียจกดข้าม เลยฟังต่อ ท่านทนฟังเฉยๆ ด้วยลักษณะ การนำเสนอน่าฟัง เลยฟังต่อเรื่อย ไม่ข้าม เนื้อหาในคลิปคือ หลวงพ่อชาท่านถามว่า มีใครรู้ว่าวันเกิดตัวเองไหม ในใจทุกคนคิดว่า รู้สิ ท่านถามอีกว่า ถ้าพ่อแม่โกหกละ ถ้าเขาแจ้งวันเกิดผิดละ ? ครูบา ท่านสะกิดใจในคำตอบ ว่า นี่คือคำตอบที่จริงสุด เราเชื่อแค่ตามเขาบอก หลวงพ่อชา ท่านพูดเรื่องจริง พูดจริงท่สุด เท่าที่เคยได้ยินมา ท่านจริงเริ่มศีกษาต่อ - ช่วงแรก ท่านไม่ปฏิบัติ เน้นฟังอย่างเดียว ต่อมา เลยอยากบวช ปกติท่านมีนิสัย ชอบแก้ปัญหา ชอบหาคำตอบ เป็นทุนเดิม คลิปที่ท่านฟัง เป็นคลิปของหลวงตามหาบัว เป็นหลัก ฟังจนศรัทธา จนเชื่อเพราะท่านเล่า คราวนี้จึง อยากลองของจริง พอปิดเทอมเลยกลับ อุดรธานี มาบวช - ท่าน ไม่เคยรู้มาก่อนว่า พุทธศาสนา มี 2 นิกาย ไม่รู้ข้อปฏิบัติอะไรทั้งสิ้น บวชวัดบ้านๆ ทั่วไป แม่แนะนำ เพราะเจ้าอาวาสเป็นญาติกัน พอบวชแล้วศรัทธา ความเพียรตามมา พยายามทำตามพระวินัยเต็มกำลัง - ท่านเล่าว่า เราไม่รู้ว่าธรรมะคืออะไร จึงเน้นสมาธิเป็นหลัก เน้นตามหา ความสงบก่อน ต่อมาไปเจอหนังสือ มุดโตทัย ของหลวงปู่มั่น เล่มนั้น เก่าๆ บางๆ ปลวกเจาะแล้ว - หนังสือ ท่าบอกให้ นั่งเหมือน พระพุทธรูป ตั้งใจ หายใจเข้า พุทธ หายใจออก โธ หายใจเข้า ธรรม หายใจออก โม หายใจเข้า สัง หายใจออก โฆ - ทำแล้วได้ทั้งความสงบและไม่สงบ ทำไปเรื่อยๆ ท่านให้เลือกเอาคำบริกรรมสัก1 อย่างมาแนบติดกับลมหายใจ - หนังสือทำนบอกแค่นี้ อาการใดจะเกิดแล้วแต่วาสนาของบุคคล ตอนบวช ท่ารับกรรมฐาน 5 ท่านก็คิดอยู่กับกับ กรรมฐาน ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง ไม่คิดถึงอนาคตและ อดีต ใจไม่วุ่นวายในอนาคตและอนาคต ทำเรื่อยๆ จนวันที่ 7 ที่บวช จนล้า กำลังนอนพัก ในใจท่านจั้งใจว่า ตื่นเมื่อไหร่ จะปฏิบัติ ทันที - รู้ตัวอีกทีตอนตี1 ครึ่ง ท่านอยากเข้าห้องน้ำแต่อยู่ไกล เพราะห้องน้ำแยก เลยคู้ขานัั่งรอ จนฝนหยุด ทำพุทโธไปเรื่อยๆ เพื่อรอฝน - ทันใดนั้น… สภาวะความเจ็บปวดของกายหาย หายไปตอนไหนไม่รู้ ลมหายใจหาย เสียงฝนตกที่ลงแผ่นสังกะสี ดับหาย ร่างกายไม่มี ลืมปวดฉี่สนิทตอนไหนไม่รู้ ลืมหมด ความรู้ทั้งหมดไปอยู่ในความเบาลออยู่ สว่างไสว เพลินอยู่นั้นนาน ไม่รู้วันเวลา นานเท่าไหร่ไม่รู้ ไม่มีความคิดใดๆอยู่เลย ไม่ปรุงแต่ง ไม่มีความจำ มีแต่ความรู้ ล้วนๆ บังคับบัญชาไม่ได้ ท่านว่า ขันธ์ขาด แต่เราไม่รู้ตัวไม่รู้จัก - เวลา 8 โมง เช้า จิตท่าน คลาย นานกว่าจนลืมตา เริ่มได้ยินเสียงต่างๆ พุทโธกลับมา ลืมตาอีกที 8 โมงเช้า ความปิติท่วมท้น ความสุขทำให้ท่านต้องร้องไห้ ท่านเล่าว่า มันอิ่ม สดชื่น ไม่ฉัน 3 วันอยู่ได้สบายๆ นี่คือครั้งแรก แต่ท่านไม่รู้จัก ว่ามันคืออะไร

- ที่มา ช่องยูทูบ พระสิ้นคิด ตอน ประวัติครูบาฉ่าย คัมภีรปัญโญ กับการสนทนาผ่าน live ครั้งแรก (คลิปปี65)
#ครูบาฉ่าย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น