วันศุกร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2553
วันอังคารที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2553
ทำผิดพลาดไปแล้วหลายๆครั้ง จะย้อนกลับ(Undo) ทำอย่างไรดีนะ
ปกติแล้ว เวลาเราจะยกเลิกการกระทำครั้งล่าสุดให้ไปที่ Edit / Undo หรือ Ctrl+Z แต่ในกรณีที่เราทำงานเพลิน ทำไปหลายขั้นตอนแล้วจะย้อนกลับละ...เอาละมาทดลองทำแบบนี้กัน
1.ไปที่ Window / History จะมีพาเลทHistory ออกมานะครับ
2. File / New -400*400 pixel / RGB /พื้นหลังแบบใสTransparent ตามรูปนี้ผิดนะ ช่องล่างสุดติ๊กผิดช่องนะ ต้องเป็น Transparent
1.ไปที่ Window / History จะมีพาเลทHistory ออกมานะครับ
2. File / New -400*400 pixel / RGB /พื้นหลังแบบใสTransparent ตามรูปนี้ผิดนะ ช่องล่างสุดติ๊กผิดช่องนะ ต้องเป็น Transparent
3. ลองเลือกเครื่องมือ ดินสอ (กดรูปพู่กันแช่ไว้มันจะโชว์ออกมานะ)วาดลงไป สีแล้วแต่คุณ วาดรูปอะไรก็แล้วแต่คุณ แต่มาเลือกเครื่องมือพู่กันวาดลงไป ตามสบาย มั่วได้ ต่อมาเลือกยางลบ ลบลงไป โปรดสังเกตุสิ่งที่เกิดขึ้นกับ History พาเลท มันจะจำไว้ว่าเราทำอะไรไปบ้าง เห็นมั้ยครับ ออกมาประมาณนี้
เวลาเราจะย้อนกลับก็แค่ คลิกไล่ลำดับขึ้นไปก็เป็นการย้อนกลับแล้วครับ
ทางลัดคือ กด Ctrl+Alt+Z นะครับ ลองดูดิ
เรื่องของหน่วยวัด ใน Photoshop
การทำงานในโปรแกรมPhotoshop หลายครั้งที่เราต้องสลับสับเปลี่ยนหน่วยวัด การทำก้ง่ายนิดเดียวนะครับ
คือเราเซตได้ตั้งแต่ต่อสร้างเอกสารเลยคือ
File / new / เราจะเห็นว่ามันมีหน่วยให้เลือกมากมาย เช่น ซม. มม. เป็นต้น เราก้เลือกกันไป
แต่ในกรณีเลือกแล้วแต่อยากเปลี่ยนละทำไงดี
วิธีง่ายตามภาพนี้ คลิกขวาตามที่ลูกศรชี้ แล้วเลือกอันใหม่เลยครับ
ที่ช่องรูเลอร์ ปรับได้เลย
ที่สำคัญอีกจุดคือ
Print Resolution คือความละเอียดของงานพิมพ์ เซตเป็น 300
Screen Resolution คือความละเอียดของหน้าจอ คือเวลาเรา Capture มันจะเอาตัวนี้ไปใช้นะครับ
อยากให้ไฟล์เล็กแต่ไม่ต้องละเอียดมากก็เซต 72 ปกติครับ
คือเราเซตได้ตั้งแต่ต่อสร้างเอกสารเลยคือ
File / new / เราจะเห็นว่ามันมีหน่วยให้เลือกมากมาย เช่น ซม. มม. เป็นต้น เราก้เลือกกันไป
แต่ในกรณีเลือกแล้วแต่อยากเปลี่ยนละทำไงดี
วิธีง่ายตามภาพนี้ คลิกขวาตามที่ลูกศรชี้ แล้วเลือกอันใหม่เลยครับ
ในกรณีต้องการเซตค่าประจำให้เครื่องเลย ก็ให้ไปที่
Edit/Prefer.../Unit... จะได้อย่างนี้
ที่ช่องรูเลอร์ ปรับได้เลย
ที่สำคัญอีกจุดคือ
Print Resolution คือความละเอียดของงานพิมพ์ เซตเป็น 300
Screen Resolution คือความละเอียดของหน้าจอ คือเวลาเรา Capture มันจะเอาตัวนี้ไปใช้นะครับ
อยากให้ไฟล์เล็กแต่ไม่ต้องละเอียดมากก็เซต 72 ปกติครับ
วันจันทร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2553
วันเสาร์ที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2553
วันศุกร์ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2553
10 ทริกง่ายๆในการใช้ Google.com ให้ได้ประโยชน์มากขึ้น
นอกเหนือจากการพิมพ์คำค้นหาในช่องพิมพ์ป้อนคำบนหน้าเวบแล้วกดปุ่มให้ไปค้นหาคำนั้นๆบนหน้าเวบไซต์ต่างๆแล้วยังมีทริกง่ายๆที่ทำให้เราสามารถใช้ประโยชน์จากเวบเซิร์ชของ Google ได้มากขึ้นอีกนิดครับ
1 ใส่ site: เพื่อจำกัดเวบไซต์ที่เราต้องการหาคำนั้นๆ เช่นถ้าต้องการจะหาคำว่า "ไมโครซอฟท์"ในเวบ "Pantip.com" ก็ให้พิมพ์ ไมโครซอฟท์ site:pantip.com ลงไปในช่องค้นหาครับ
2. ใช้ Google ในการช่วยสะกดคำ ถ้าเราไม่แน่ใจคำไหนหรือชื่อไหน(ในภาษาอังกฤษ)ว่าสะกดอย่างไร ลองพิมพ์คำดังกล่าวลงไปในช่องค้นหาดูครับ ถ้าพิมพ์ผิด Google ก็จะมีคำที่น่าจะถูกต้องแนะนำไว้ เช่นถ้าเราพิมพ์คำว่า Mocrosoft ลงไป Google ก็จะแนะนำว่า Did you mean: microsoft ซึ่งก็เป็นการสะกดคำที่ถูกต้องมาครับ นอกจากนี้ยังให้ Google อธิบายคำศัพท์ต่างๆได้โดยใช้ define: ครับ เช่นถ้าอยากรู้ว่า paratrooper นั้นมีความหมายว่าอย่างไร(ในภาษาอังกฤษ) ให้พิมพ์ define: paratrooper ลงไปก็จะได้ความหมายแบบต่างๆออกมาครับ
3. ใช้ Google เป็นเครื่องคิดเลขครับ อันนี้ถ้าเกิดฟังก์ชั่นเครื่องคิดเลขในโทรศัพท์มือถือ หรือบนคอมพิวเตอร์ใช้งานไม่ได้กระทันหัน(ไม่น่าเกิดขึ้นได้) ก็พิมพ์ลงไปเลยครับ 1234*(6543/9455)อะไรก็ว่ากันไปครับ นอกจากนี้ยังสามารถใช้แปลงหน่วยวัดได้เช่นถ้าอยากจะรู้ว่า 1bar =กี่ psi ก็ใส่ไปในช่องค้นหาว่า 1bar in psi ครับ
4. ใช้ตรวจสอบเวลาในเมืองต่างๆ ถ้าอยากรู้เวลาในเมืองไหนก็พิมพ์ time แล้วก็ตามด้วยชื่อเมืองลงไป เช่นอยากรู้ว่าซานฟรานซิสโกเวลากี่โมงแล้วก็พิมพ์ time San Francisco ลงไปได้เลย
5. ใช้ตรวจสอบอัตราแลกเปลี่ยนเงินระหว่างประเทศคร่าวๆ เช่นอยากจะรู้ว่า 1ดอลลาร์สหรัฐฯในเวลานั้นเท่ากับกี่บาทไทย ก็พิมพ์ 1 usd in baht กดค้นหาก็จะได้อัตราแลกเปลี่ยนคร่าวๆมาครับ
6. ถ้าเรามีคำค้นหา 2คำแต่ไม่มั่นใจว่าคำที่เราใช้ค้นหานั้นคำไหนจะตรงมากกว่ากันก็ลองใช้คำว่า OR ดูครับ เช่นถ้าต้องการค้นหาคำว่า ASAP หรือมีอีกคำที่เราไม่แน่ใจคือ as soon as possible เราก็ใส่ว่า ASAP or as soon as possible เข้าไปในช่องค้นหาครับ
7. ใช้เครื่องหมาย - ในการระบุว่าไม่ต้องการไซต์ที่มีคำที่เราระบุ เช่นถ้าเราต้องการข้อมูลเวบไซต์เกี่ยวกับ American Idol แต่ไม่ต้องการข้อมูลของ Simon Cowell ก็ลองพิมพ์ “american idol” -cowell
8. ใช้ filetype:ในการค้นหาไฟล์ชนิดต่างๆ เช่นถ้าเราต้องการหาไฟล์ pdf ที่เกี่ยวข้องกับคำว่า GTD ก็พิมพ์ GTD filetype:pdf ลงไปครับ
9. ถ้าต้องการระบุระยะในการค้นหาให้ใช้ .. ในการคั่นระยะที่เราต้องการจะค้นหา เช่นต้องการค้นหาข้อมูลของการแข่งโอลิมปิคในช่วงปี 1950 ถึง 1960 ก็พิมพ์คำว่า Olympics 1950..1960
10. ใช้ค้นหา Area code ของหมายเลขโทรศัพท์ เช่นถ้าเรารู้ Area code แล้วต้องการรู้ว่าเบอร์โทรดังกล่าวอยู่ที่บริเวณเมืองไหนก็พิมพ์เลข area code ลงไปเลยครับ เช่น 801 ก็จะบอกมาว่าเป็นของรัฐยูท่าห์ ในสหรัฐอเมริกา แต่ฟังก์ชั่นนี้จะใช้ได้เฉพาะกับเบอร์ area code ในสหรัฐอเมริกาเท่านั้นนะครับของไทยหมดสิทธิ์
บทความนี้แปลและดัดแปลงบางส่วนจากเวบ http://webworkerdaily.com/2010/04/01/10-simple-google-search-tricks/?utm_source=gigaom&utm_medium=brand-explorer เขียนโดย Simon Mackie
ถ้ามีทริกเพิ่มๆใดๆกรุณาแนะนำด้วยครับ
คัดลอกจาก
http://www.pantip.com/tech/techblog/article.php?articleID=BA2901837
1 ใส่ site: เพื่อจำกัดเวบไซต์ที่เราต้องการหาคำนั้นๆ เช่นถ้าต้องการจะหาคำว่า "ไมโครซอฟท์"ในเวบ "Pantip.com" ก็ให้พิมพ์ ไมโครซอฟท์ site:pantip.com ลงไปในช่องค้นหาครับ
2. ใช้ Google ในการช่วยสะกดคำ ถ้าเราไม่แน่ใจคำไหนหรือชื่อไหน(ในภาษาอังกฤษ)ว่าสะกดอย่างไร ลองพิมพ์คำดังกล่าวลงไปในช่องค้นหาดูครับ ถ้าพิมพ์ผิด Google ก็จะมีคำที่น่าจะถูกต้องแนะนำไว้ เช่นถ้าเราพิมพ์คำว่า Mocrosoft ลงไป Google ก็จะแนะนำว่า Did you mean: microsoft ซึ่งก็เป็นการสะกดคำที่ถูกต้องมาครับ นอกจากนี้ยังให้ Google อธิบายคำศัพท์ต่างๆได้โดยใช้ define: ครับ เช่นถ้าอยากรู้ว่า paratrooper นั้นมีความหมายว่าอย่างไร(ในภาษาอังกฤษ) ให้พิมพ์ define: paratrooper ลงไปก็จะได้ความหมายแบบต่างๆออกมาครับ
3. ใช้ Google เป็นเครื่องคิดเลขครับ อันนี้ถ้าเกิดฟังก์ชั่นเครื่องคิดเลขในโทรศัพท์มือถือ หรือบนคอมพิวเตอร์ใช้งานไม่ได้กระทันหัน(ไม่น่าเกิดขึ้นได้) ก็พิมพ์ลงไปเลยครับ 1234*(6543/9455)อะไรก็ว่ากันไปครับ นอกจากนี้ยังสามารถใช้แปลงหน่วยวัดได้เช่นถ้าอยากจะรู้ว่า 1bar =กี่ psi ก็ใส่ไปในช่องค้นหาว่า 1bar in psi ครับ
4. ใช้ตรวจสอบเวลาในเมืองต่างๆ ถ้าอยากรู้เวลาในเมืองไหนก็พิมพ์ time แล้วก็ตามด้วยชื่อเมืองลงไป เช่นอยากรู้ว่าซานฟรานซิสโกเวลากี่โมงแล้วก็พิมพ์ time San Francisco ลงไปได้เลย
5. ใช้ตรวจสอบอัตราแลกเปลี่ยนเงินระหว่างประเทศคร่าวๆ เช่นอยากจะรู้ว่า 1ดอลลาร์สหรัฐฯในเวลานั้นเท่ากับกี่บาทไทย ก็พิมพ์ 1 usd in baht กดค้นหาก็จะได้อัตราแลกเปลี่ยนคร่าวๆมาครับ
6. ถ้าเรามีคำค้นหา 2คำแต่ไม่มั่นใจว่าคำที่เราใช้ค้นหานั้นคำไหนจะตรงมากกว่ากันก็ลองใช้คำว่า OR ดูครับ เช่นถ้าต้องการค้นหาคำว่า ASAP หรือมีอีกคำที่เราไม่แน่ใจคือ as soon as possible เราก็ใส่ว่า ASAP or as soon as possible เข้าไปในช่องค้นหาครับ
7. ใช้เครื่องหมาย - ในการระบุว่าไม่ต้องการไซต์ที่มีคำที่เราระบุ เช่นถ้าเราต้องการข้อมูลเวบไซต์เกี่ยวกับ American Idol แต่ไม่ต้องการข้อมูลของ Simon Cowell ก็ลองพิมพ์ “american idol” -cowell
8. ใช้ filetype:ในการค้นหาไฟล์ชนิดต่างๆ เช่นถ้าเราต้องการหาไฟล์ pdf ที่เกี่ยวข้องกับคำว่า GTD ก็พิมพ์ GTD filetype:pdf ลงไปครับ
9. ถ้าต้องการระบุระยะในการค้นหาให้ใช้ .. ในการคั่นระยะที่เราต้องการจะค้นหา เช่นต้องการค้นหาข้อมูลของการแข่งโอลิมปิคในช่วงปี 1950 ถึง 1960 ก็พิมพ์คำว่า Olympics 1950..1960
10. ใช้ค้นหา Area code ของหมายเลขโทรศัพท์ เช่นถ้าเรารู้ Area code แล้วต้องการรู้ว่าเบอร์โทรดังกล่าวอยู่ที่บริเวณเมืองไหนก็พิมพ์เลข area code ลงไปเลยครับ เช่น 801 ก็จะบอกมาว่าเป็นของรัฐยูท่าห์ ในสหรัฐอเมริกา แต่ฟังก์ชั่นนี้จะใช้ได้เฉพาะกับเบอร์ area code ในสหรัฐอเมริกาเท่านั้นนะครับของไทยหมดสิทธิ์
บทความนี้แปลและดัดแปลงบางส่วนจากเวบ http://webworkerdaily.com/2010/04/01/10-simple-google-search-tricks/?utm_source=gigaom&utm_medium=brand-explorer เขียนโดย Simon Mackie
ถ้ามีทริกเพิ่มๆใดๆกรุณาแนะนำด้วยครับ
คัดลอกจาก
http://www.pantip.com/tech/techblog/article.php?articleID=BA2901837
วันพฤหัสบดีที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2553
การสร้างลายแบบต่างๆ (pattern) ประยุกต์ใช้ได้หลากหลาย
ตัวอย่างลวดลายเส้นทีวี แบบที่1
ตัวอย่างแบบที่2 ลายผ้า
เริ่มต้นแบบที่1 แบบลายเส้น ทีวี
File / new เซตตามภาพนะครับ
มันคือ ขนาด 3*3 พิกเซล ความละเอียด 72 โหมดสี RGB แบบที่ใช้บนเว็บหรือจอภาพ แล้วตัวสุดท้าย คือแบบพื้นเหมือนแผ่นใส Transparent
จะได้แบบนี้
มันจะเล็กมากเลยนะ เพราะเรื่องนี้ ตั้งใจเอาไปใช้บนเว็บไซต์นะครับ
ต่อมากด CTRL+0 เลขศูนย์นะ จะได้
เลือกเครื่องมือ Single Row Marquee Tool คือ เส้นที่เราเลือกเป็นเส้นเล็กๆเส้นเดียว อ้อ ให้กด เจ้าเครื่องมือเส้นประสี่เหลี่ยมไว้ แล้วมันจะออกมาเองครับ
เอาเครื่องมือนี้ไปคลิกที่ตรงกลางของแผ่นงาน เล็งๆเอาเด้อ จะได้อย่างนี้
ต่อมากด Ctrl+Backspace (ลูกศรชี้ไปซ้าย) เพื่อเทสีขาว ที่เป็นสีแบคกราวด์ลงไปในเส้นประ แล้วไปที่
Select /deselect เพื่อเอาเส้นที่เราเลือกไว้ออก
ไปที่ Edit / Define pattern ตั้งชื่อ PAT หรือแล้วแต่คุณ อย่าลืมจำไว้ละ กด OK
แล้วเปิดรูป อะไรก็ได้มา 1 รูป File / Open /เลือกมาเลย
อ้อ ทางลัด ให้ดับเบิ้ลคลิกที่ว่างในโปรแกรม ที่เป็นสีเทาๆอะ ก็จะเป็นการเปิดเหมือนกัน ลองดูดิ
หลังจากเปิดมาแล้วไปที่พาเลท เลเยอร์นะ ถ้าไม่เห้นมันไปที่ Window /Layer ก็จะมาเอง
ทำเลเยอร์มาใหม่อีก 1 ชั้นด้วยการกดรูปกระดาษพับ ตามลูกศร
ไปที่ Edit /Fill /ตัวบนเลือก Pattern ลูกศรตัวล่าง เลือก เส้นขาวๆ ชื่อ PAT หรือตามที่คุณตั้งชื่อไว้ กด โอเค
ตัวอย่างแบบที่2 ลายผ้า
เริ่มต้นแบบที่1 แบบลายเส้น ทีวี
File / new เซตตามภาพนะครับ
มันคือ ขนาด 3*3 พิกเซล ความละเอียด 72 โหมดสี RGB แบบที่ใช้บนเว็บหรือจอภาพ แล้วตัวสุดท้าย คือแบบพื้นเหมือนแผ่นใส Transparent
จะได้แบบนี้
มันจะเล็กมากเลยนะ เพราะเรื่องนี้ ตั้งใจเอาไปใช้บนเว็บไซต์นะครับ
ต่อมากด CTRL+0 เลขศูนย์นะ จะได้
เลือกเครื่องมือ Single Row Marquee Tool คือ เส้นที่เราเลือกเป็นเส้นเล็กๆเส้นเดียว อ้อ ให้กด เจ้าเครื่องมือเส้นประสี่เหลี่ยมไว้ แล้วมันจะออกมาเองครับ
เอาเครื่องมือนี้ไปคลิกที่ตรงกลางของแผ่นงาน เล็งๆเอาเด้อ จะได้อย่างนี้
ต่อมากด Ctrl+Backspace (ลูกศรชี้ไปซ้าย) เพื่อเทสีขาว ที่เป็นสีแบคกราวด์ลงไปในเส้นประ แล้วไปที่
Select /deselect เพื่อเอาเส้นที่เราเลือกไว้ออก
ไปที่ Edit / Define pattern ตั้งชื่อ PAT หรือแล้วแต่คุณ อย่าลืมจำไว้ละ กด OK
แล้วเปิดรูป อะไรก็ได้มา 1 รูป File / Open /เลือกมาเลย
อ้อ ทางลัด ให้ดับเบิ้ลคลิกที่ว่างในโปรแกรม ที่เป็นสีเทาๆอะ ก็จะเป็นการเปิดเหมือนกัน ลองดูดิ
หลังจากเปิดมาแล้วไปที่พาเลท เลเยอร์นะ ถ้าไม่เห้นมันไปที่ Window /Layer ก็จะมาเอง
ทำเลเยอร์มาใหม่อีก 1 ชั้นด้วยการกดรูปกระดาษพับ ตามลูกศร
ไปที่ Edit /Fill /ตัวบนเลือก Pattern ลูกศรตัวล่าง เลือก เส้นขาวๆ ชื่อ PAT หรือตามที่คุณตั้งชื่อไว้ กด โอเค
จากนั้นที่พาเลทเลเยอร์ ช่องผสมเลเยอร์ เลือก Soft Light ช่องปรับความโปร่งใส Opacity เลือก 30% ก็จบ
แล้วทำการเซฟเป็นนามสกุล Jpeg นะครับ ทำไม่ถูกดูที่นี่ ตั้งแต่ข้อ 5 นะ
คลิกเลย
วันพุธที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2553
คำสั่ง Print to file มีไว้ทำไมกันเอ่ย
Print to File จะอยู่ในหน้าต่างที่เราตั้งค่าก่อนพิมพ์ครับ เมื่อเลือก Print to file แล้วงานของคุณจะถูกเก็บด้วยนามสกุล .prn ปกติเวลาพิมพ์งาน เครื่องพิมพ์จะสร้างไฟล์ .prn เสมอ เพียงแต่ไม่ได้สร้างให้เห็น และไม่ได้เก็บไว้ แล้ว .prn มีไว้ทำไม? คำตอบคือ มีไว้เก็บข้อมูลที่จะส่งไปให้เครื่องพิมพ์ ว่าเอกสารนี้ใช้ ฟอนต์อะไร มีกี่หน้า ตั้งค่าหน้ากระดาษอย่างไร ฯลฯ สรุปก็คือ เป็นสื่อกลางระหว่างพีซีกับเครื่องพิมพ์นั่นเอง ประโยชน์ของมันก็คือไฟล์ .prn นี้สามารถพิมพ์ได้ทันที โดยไม่ต้องเปิดโปรแกรม text editor เลย ดั้งนั้นหากพิมพ์จากไฟล์ .prn ไม่ว่าจากที่ใด ก็จะได้งานที่เหมือนกันไม่ผิดเพี้ยน แต่ปัญหาก็คือถ้าเปิดไฟล์ .prn ด้วย text editor ก็จะออกมาเป็นภาษาอะไรก็ไม่รู้ ดังนั้นการพิมพ์ไฟล์ .prn จึงต้องใช้โปรแกรมพิเศษ อย่าง MS Office Document Imaging ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของชุดโปรแกรม MS Office นั่นเอง
มาจาก : http://www.moac.go.th/builder/ictc/images/tip_02.html
มาจาก : http://www.moac.go.th/builder/ictc/images/tip_02.html
การหาจุดศูนย์กลางของแผ่นงาน เรื่องง่ายๆ
เอเราจะหาจุดศูนย์กลางแบบที่เราต้องการได้อย่างไรน้า.. เช่น ต้องการหาจุดศูนย์กลางของเข็มนาฬิกา แบบนี้ ทำไงดีหว่า
เริ่มจาก File /new ตามภาพนี้เลย
จะพบว่ามีจุดตรงกลางอย่างนี้นะครับ
อ้อ อย่าลืมโชว์ไม้บรรทัดด้วยกด Ctrl+R หรือ View/ Ruler นะ
แล้ววางเมาส์ที่ไม้บรรทัดลากมาวางไว้ที่จุดกลางของแผ่นงานจะได้ดังนี้
กด Enter เพื่อตกลง แล้วก็ Ctrl+D ยกเลิกเส้นประ หรือ Select / Deselect นะ แค่นี้ก็จบ ง่ายนิดเดียว
เริ่มจาก File /new ตามภาพนี้เลย
ต่อมา Select /All
จะพบว่ามีจุดตรงกลางอย่างนี้นะครับ
อ้อ อย่าลืมโชว์ไม้บรรทัดด้วยกด Ctrl+R หรือ View/ Ruler นะ
แล้ววางเมาส์ที่ไม้บรรทัดลากมาวางไว้ที่จุดกลางของแผ่นงานจะได้ดังนี้
กด Enter เพื่อตกลง แล้วก็ Ctrl+D ยกเลิกเส้นประ หรือ Select / Deselect นะ แค่นี้ก็จบ ง่ายนิดเดียว
วันพฤหัสบดีที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2553
การติดตั้งฟ้อนท์ไทย ให้Photoshop
อันดับแรกเลยนะครับ หาที่โหลดก่อนคือเว็บให้โหลดของไทยเราที่ดังๆก็เช่น F0nt.com (เลขศูนย์นะไม่ใช่โอ)
ของที่อื่นๆก็เช่น dafont.com ครับ สนใจตัวไหนลองเลือกดูดเลยครับ
เสร็จแล้วจะได้ไฟล์ซิปมานะครับ
ทำการแตกไฟล์ด้วยโปรแกรม Winrar หรือ Winzip (Extrace File)
จะได้ไฟล์หน้าตานี้มา
-----------------------
------------------------
แล้วทำการคัดลอกไว้ด้วยการคลิกขวาคัดลอก
เปิดไดเรคโทรี่นี้นะครับ
C:\Program Files\Common Files\Adobe\Fonts
ทำการคลิกขวา Paste ลงไป ที่ช่องขวามืิอ ก็เสร็จแล้วครับ
ทำการแตกไฟล์ด้วยโปรแกรม Winrar หรือ Winzip (Extrace File)
จะได้ไฟล์หน้าตานี้มา
-----------------------
------------------------
แล้วทำการคัดลอกไว้ด้วยการคลิกขวาคัดลอก
เปิดไดเรคโทรี่นี้นะครับ
C:\Program Files\Common Files\Adobe\Fonts
ทำการคลิกขวา Paste ลงไป ที่ช่องขวามืิอ ก็เสร็จแล้วครับ
มาเพิ่มรูปแบบแปลกใหม่ให้หัวพู่กันในPhotoshop
วันนีคนที่อยู่กทม. อย่าลืมไปช้อปที่งานกาชาดนะครับ พูดถึงกาชาดแล้วเสียดายเลือดที่เอาไปราดทิ้งจัง...เลือดดีๆที่คนรออยู่ก็มากโข โถทำไปได้... พอดีกว่าน่า...
อือ ผมเคยเขียนเรื่องการใช้พู่กันมาแล้วบางส่วนนะครับ แต่คราวนี้มาดูการเพิ่มหัวแบบแปลกใหม่บ้างนะครับ
ลองไปที่เว็บนี้นะครับ
http://celestial-star.net/brushes/
ลองโหลดมาไว้นะครับ
หลังจากโหลดมาแล้ว ก็ทำการขยายไฟล์ด้วยโปรแกรม Winrar หรือ Winzip ก็ได้นะครับ เราจะเห็นไฟล์หน้าตาประมาณนี้ แล้วก็เลือก ตัด (Ctrl+X) ไว้
แล้วเอามันไปวางที่นี่ครับ C:\Program Files\Adobe\Photoshop 7.0\Presets\Brushes
แล้วเปิด photoshop ขึ้นมา สร้างแผ่นงานใหม่ขึ้นมาเท่าไหร่ก็ได้ เอามาลอง คลิกเลือกบรัช ลองทำนี้ บทความที่ผ่านมา ตามลิงค์นี้
เราจะได้หัวบรัชแบบพิเศษมาใช้กันแล้ว
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)